ธนาคารกสิกรไทย ประกาศเรื่องการเก็บค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท หรือ Dynamic Currency Conversion Fee (DCC Fee) ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป รายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตวีซ่า/มาสเตอร์การ์ดเพื่อชำระค่าสินค้าและ/หรือบริการด้วยสกุลเงินบาท ณ ร้านค้าในต่างประเทศ ร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ และการกดเงินสดที่เลือกเป็นสกุลเงินบาทผ่านตู้ ATM ในต่างประเทศ จะถูกเรียกเก็บ “ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท” ในอัตราร้อยละ 1 ของยอดใช้จ่าย/ยอดกดเงินสดในสกุลเงินบาท
ด้านธนาคาร ttb ประกาศระบุว่า เรื่องแจ้งการเก็บค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาทเมื่อทำรายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ร้านค้า และร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศตั้งแต่ 1 พ.ค. 2567 เป็นต้นไป
รวมถึง ธนาคารกรุงศรี ประกาศระบุว่า ขอแจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป รายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตวีซ่า/มาสเตอร์การ์ด ในการซื้อสินค้าและ/หรือบริการด้วยสกุลเงินบาท ที่ร้านค้าและร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ รวมทั้งการกดเงินสดด้วยสกุลเงินบาท ผ่านตู้ ATM ในต่างประเทศ จะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาทในอัตราร้อยละ 1 ของยอดใช้จ่าย/ยอดกดเงินสด
ดังนั้น ลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตวีซ่า/มาสเตอร์การ์ดของธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวในข้างต้นที่รูดใช้จ่ายรวมถึงกดเงินสดออกจากตู้เอทีเอ็ม เพื่อนำไปใช้จ่าย/ชำระค่าบริการของแพลตฟอร์มในต่างประเทศ หรือร้านค้าขายสินค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศในรูปสกุลเงินบาท ยกตัวอย่างเช่น ใช้ชำระค่าสมาชิกสตรีมมิ่งหนัง NETFLIX ใช้ชำระค่าสมาชิกแอปพลิเคชั่นของแพลตฟอร์มของ APPLE ใช้จ่ายจองห้องพัก ตั๋วโดยสาร ค่าเช่ารถของ AGODA, BOOKING, KLOOK เป็นต้น ใช้จ่ายค่าซื้อโฆษณาเพื่อเพิ่มยอดบน FACEBOOK, GOOGLE, YAHOO เป็นต้น และอื่นๆ