เร่งแก้หนี้! แบงก์รัฐเตรียม 5 หมื่นล้านบรรเทาหนี้ข้าราชการ-ออกมาตรการปรับโครงสร้างหนี้

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาตามนโยบายนายกรัฐมนตรี ธนาคารกรุงไทยให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะจากมาตรการโควิดที่ผ่านมารวมกว่า 2 หมื่นกว่าล้านบาท 53,000 ราย และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาของท่านนายก ในการช่วยเหลือข้าราชการลดภาระหนี้อย่างยั่งยืน เพิ่มความสามารถในการดำรงชีพ ทางกรุงไทยได้นำเสนอมาตรการรวมหนี้อย่างยั่งยืน อัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ตลอดอายุสัญญา และลดอัตราผ่อนชำระให้มีความเหมาะสมกับการดำรงชีพ โดยได้ขยายเวลาผ่อนชำระอย่างต่อเนื่องได้ยาวสุดถึง 80 ปี ให้กับกลุ่มข้าราชการกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้สินเชื่อ OD ที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และก่อให้เกิดภาระหนี้เรื้อรัง เกินความสามารถในการผ่อนชำระ รวมไปจนถึงการสนับสนุนให้ความรู้เรื่องวินัยการเงินแก่ข้าราชการ

นายผยง กล่าวว่ายังมีข้อจำกัดเชิงโครงสร้างของระบบ คือ
1. หนี้ที่อยู่ในระบบ NCB เพียง 147 สถาบันการเงิน และมีเพียงสหกรณ์ไม่กี่ราย ครอบคลุมจำนวน 33 ล้านคน จำนวนบัญชี 127 ล้านบัญชี
2. บุริมสิทธิของหนี้สหกรณ์ และการลำดับการตัดชำระหนี้ของสถาบันการเงิน แม้ว่าจะอยู่ภายใต้กรอบสวัสดิการขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่มี MOU
และ 3. การก่อหนี้เพิ่มที่ผ่านมา สามารถเห็นได้เฉพาะหนี้ที่อยู่ในระบบ ดังนั้นการดำรงไว้ซึ่งหลักการ 70 : 30 จะสามารถดำเนินการได้เฉพาะหนี้ที่อยู่ในระบบ การมีกลไกลที่มีข้อมูลที่อัพเดตอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นข้อจำกัดอีกหนึ่งข้อต้องก้าวผ่าน ดังนั้น ธนาคารจึงได้ร่วมมือกับหลายภาคส่วน ประกอบด้วย หน่วยงานข้าราชการต้นสังกัด สหรกณ์ กรมบัญชีกลาง NCB กรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อให้การช่วยเหลือสัมฤษธ์ผลในเชิงโครงสร้าง ลดทอนอุปสรรคในเชิงโครงสร้างได้อย่างยั่งยืน โดยรวมหนี้ทุกประเภท รวมถึงมีแนวทางให้ลูกหนี้แสดงเจตจำนงของการไม่ก่อหนี้เพิ่ม หรือเกินกำลัง มีระบบและกระบวนการอัพเดตแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อให้ทรายถึงสถานะการเป็นหนี้องค์รวมอย่างต่อเนื่อง และเป็นปัจจุบัน ให้สามารถเข้าใจได้ทุกภาคส่วน ในลักษณะที่เชื่อมโยงแหล่งที่มาของรายได้ทุกช่วงวัย เพื่อให้เกิดการชำระหนี้ได้อย่างเหมาะสม ไม่ผลักลูกหนี้ข้าราชการไปกู้หนี้นอกระบบ และใช้ชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ทิ้งภาระให้รุ่นต่อไป

โดยธนาคารวางกำหนดไว้ 50,000 ล้านบาท คาดว่าจะช่วยข้าราชการได้ 50,000 คน โดยที่กรอบของการเข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย กลุ่มเปราะบางที่มีภาระหนี้มาก จนไม่สามารถดำรงชีพขั้นพื้นฐานได้ และมีเงินเดือนเหลือน้อยกว่า 30% ในแต่ละเดือน ปิดหนี้และรวมหนี้จากทุกสภาบันการเงิน รวมถึงการรวมหนี้ และการร่วมมือแบบ Co-Exit กับสหกรณ์ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การลดภาระหนี้อย่างยั่งยืน ให้มีเงินเหลือเกิน 30% ตลอดช่วงวัย โดยที่สามารถยังชีพได้ โดยไม่พึ่งหนี้นอกระบบ แสดงเจตนารมณ์ไม่ก่อหนี้เพิ่มตลอดการเข้าร่วมโครงการ รวมสิทธิบำเหน็จบำนาญตกทอด เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงแหล่งการชำระหนี้ได้ย่างต่อเนื่อง หลังการเกษียณอายุราชการ

การรวมหนี้ทุกประเภท จะทำให้ข้าราชการได้ประโยชย์จากการลดภาระดอกเบี้ยในระดมที่เหมาะสมอย่างมีนัยสำคัญ ผ่อนชำระได้เหมาะสมกับรายได้ที่มี โดยสามารถผ่อนแบบ CO Exit ร่วมกับสหกรณ์ มีเงินดำรงชีพอย่างเหมาะสม โดยไม่ต้องพึ่งหนี้นอกระบบ ซึ่งปัจจุบันได้หารือกับกองทัพบก กระทรวงการคลัง สหกรณ์กรมป่าใหม่ สหกรณ์ครูขอนแก่น สหกรณ์ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นต้น และอยู่ระหว่างหารือกับกองทัพเรือ อากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกันนี้ มีวเงินสนับสนุนสหกรณ์เกือบ 1.4 แสนล้านบาท มียอดค้างชำระ 4 หมื่นล้านบาท

ด้านนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารออมสินเร่งการแก้ไขหนี้ข้าราชการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยมีโครงการหลักๆ เช่น การลดดอกเบี้ยให้ข้าราชการที่ติดขัดการจ่ายดอกเบี้ยหรือมีประวัติการชำระหนี้ดี โดยลดดอกเบี้ยไปแล้ว 367,189 ราย เป็นมูลหนี้ 294,229 ล้านบาทหรือเกือบ 70% ของสินเชื่อข้าราชการทั้งหมด ใช้เงินในการลดดอกเบี้ยประมาณ 3 พันล้านบาท

นอกจากนั้นข้าราชการที่เป็น NPL ไม่สามารถชำระหนี้ได้แล้ว ธนาคารออมสินได้ดำเนินโครงการ 4 ไม่ คือ ไม่ฟ้องดำเนินคดี ไม่ฟ้องล้มละลาย ไม่ยึดทรัพย์ และไม่ขายทอดตลาด โดยโครงการนี้จะหมดอายุในวันที่ 31 มี.ค.นี้ แล้วจะมีการประเมินผลอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้สามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้เร็ว และธนาคารก็จะมีการลดดอกเบี้ยให้ โดยมีข้าราชการที่ได้ประโยชน์ทั้งสิ้น 24,822 ราย เป็นวงเงิน 8,335 ล้านบาท

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles