นางฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้รายงานสถานการณ์นักท่องเที่ยว จีน ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย แก่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่า ขณะนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยมากที่สุด เป็นลำดับที่ 1 และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นทุกวัน ขณะความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจีนเป็นบวกมากขึ้น ซึ่งวานนี้ (25 ม.ค.) มีข้อมูลการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยกว่า 20,000 คน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ขออย่าให้ล่ม ซึ่งขณะนี้มีการประสานกับสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) อยู่ พร้อมกำชับว่า ช่วงนี้เข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน จึงขอย้ำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะขณะนี้นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาแล้ว และเพิ่มขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ และหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะจากที่ฟังเสียงสะท้อนจากโรงแรมใหญ่ๆ มีการตอบรับดีมาก และดีใจที่รัฐบาลสนับสนุนในเรื่องการท่องเที่ยว
โดยนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า จะได้มีโอกาสพบปะและหารือกับ นายหวัง อี้ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านการต่างประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์จีน และรมว.ต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 29 ม.ค.นี้ ซึ่งอยู่ในกำหนดการที่นายหวัง อี้ จะเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 26-29 ม.ค.67
ส่วนความคืบหน้าโครงการฟรีวีซ่า จะเพิ่มขยายไปยังประเทศอื่นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขณะนี้กำลังพิจารณา ซึ่งตนไม่อยากแจ้งทีละประเทศ โดยขอให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) พิจารณาถึงความเหมาะสม และทำงานร่วมกับ ททท. พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่แค่เพียงฟรีวีซ่าอย่างเดียว แต่ในเรื่องรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างกรณีเรือสำราญ ที่หากมีการจอดเทียบท่าที่ไทย จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมามากกว่า 2,500 คน ซึ่งจะมีเรื่องใบตม. 6 ที่อาจต้องใช้เวลาในการดำเนินการนาน แต่เมื่อเข้ามาแบบเช้า–เย็นกลับ จึงต้องพยายามอำนวยความสะดวกให้ โดยขณะนี้ทุกหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกำลังดูแลในเรื่องนี้ให้
สำหรับกำหนดการสำคัญของนายหวัง อี้ ที่จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในระหว่างวันที่ 26-29 ม.ค.67 ดังนี้
–เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล
–ประชุมกลไกหารือระหว่าง รมว.ต่างประเทศ ไทย–จีน ครั้งที่ 1
–การลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทย–จีน ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกัน สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา และหนังสือเดินทางกึ่งราชการ ซึ่งคาดว่าความตกลงดังกล่าว จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.67
