เวียดนามจี้ติดส่งออกข้าวสูสีไทย มีตีเสมอส่งออกข้าว 8 ล้านตันมากเป็นประวัติศาสตร์

เวียดนาม จี้ติด ส่งออกข้าว สูสีไทย มีตีเสมอส่งออกข้าว 8 ล้านตันมากเป็นประวัติศาสตร์

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ประเทศเวียดนามสามารถเพิ่มการส่งออกข้าวไปตลาดโลกได้อย่างรวดเร็วและมากขึ้นอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะการส่งออกของเวียดนามเป็นไปอย่างก้าวกระโดดในปีผ่านไปนั้น ถึงแม้ว่า ประเทศเวียดนามมีพื้นที่ปลูกข้าวเพียง 36 ล้านไร่ ซึ่งน้อยกว่าประเทศไทยถึงครึ่งหนึ่งจากที่ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกข้าวมากถึง 70 ล้านไร่ แต่รัฐบาลเวียดนามใช้นโยบายข้าวเวียดนามคู่ขนานทั้งการพัฒนาพันธุ์ข้าว และการเพิ่มผลผลิตต่อไร่มากขึ้น ทุกวันนี้ ประเทศเวียดนามทำผลผลิตข้าวต่อไร่ที่ 44 ล้านตัน ขณะที่ประเทศไทยผลิตต่อไร่ได้ 32 ล้านตัน นั่นหมายถึง ผลผลิตข้าวต่อไร่มีมากกว่าประเทศไทยมากถึง 12 ล้านตัน หรือสูงกว่า 3 เท่า ทำให้เฉลี่ยออกมาแล้ว พบว่า ต้นทุนเฉลี่ยปลูกข้าวในประเทศเวียดนามถูกกว่าประเทศไทยมาก

ในปี 2023 ผ่านไปนั้น ประเทศเวียดนามกลายเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวมาเป็นอันดับ 3 ของโลก ความน่าทึ่งและก้าวกระโดดอีกจุดหนึ่ง อยู่ที่ประเทศเวียดนามปรับปรุงการส่งออกข้าวจากเดิมที่เคยส่งออกข้าว 6 ล้านตัน กำลังแนวโน้มชัดเจนว่า เวียดนามจะสามารถส่งออกข้าวไปตลาดโลกได้ถึง 8 ล้านตัน ซึ่งมีปริมาณส่งออกข้าวเท่ากับประเทศไทย ทำให้ประเทศเวียดนามไม่เพียงจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการการส่งออกข้าวของโลก แต่เป็นประวัติศาสตร์ของประเทศเวียดนามด้วย

ประเทศเวียดนามยังใช้กลยุทธ์สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทั้งปริมาณและราคาขายด้วยการเป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวเปลือกจากประเทศเพื่อนบ้าน แล้วนำมาส่งออกจากประเทศเวียดนาม ในปีผ่านไป ประเทศเวียดนามนำเข้าข้าวเปลือกจากประเทศกัมพูชาคิดเป็น 4 ล้านตันข้าวเปลือกแล้วนำมาสีใหม่ ส่งผลให้ประเทศเวียดนามมีปริมาณข้าวสารเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านตันข้าวสาร เหตุผลที่ประเทศเวียดนามสามารถนำเข้าข้าวเปลือกจากประเทศเพื่อนบ้านมาทำการสีใหม่เพื่อส่งออกได้นั้น เนื่องจากประเทศเวียดนามไม่มีกฎหมายห้ามการนำเข้าเมล็ดพันธุ์ ซึ่งแตกต่างจากประเทศไทยที่มีกฎหมายควบคุมเรื่องดังกล่าว

นอกจากนี้ ประเทศเวียดนามยังสั่งนำเข้าข้าวนึ่งจากประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นข้าวที่มีราคาถูกมาก โดยนำมาใช้เป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศ เพื่อทดแทนปลายข้าวในประเทศ ด้วยการนำปลายข้าวไปส่งออกในตลาดโลก

ปัจจัยสำคัญในด้านการสร้างชื่อเสียงและความมั่นใจในคุณภาพข้าวของประเทศเวียดนาม คือในปี 2023 ผ่านไปนั้น เวียดนามมีการส่งพันธุ์ข้าวเข้าประกวดสายพันธุ์ข้าวในเวทีโลก ในทางตรงกันข้ามประเทศไทยกลับไม่ส่งข้าวเข้าประกวดแต่อย่างใด ในเวทีประกวดสายพันธุ์ข้าวที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2023 หรือ The World’s Best Rice 2023 จากการประชุมข้าวโลก หรือ 2023 International IWRC ที่เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ปรากฎว่า ข้าวสายพันธุ์ ST25 ของประเทศเวียดนามชนะเป็นอันดับ 1 ของโลก
ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ประเทศเวียดนามพัฒนาสายพันธุ์อย่างจริงจัง และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในตลาดโลกอย่างต่อเนื่องแล้ว

สำหรับประเทศไทยนั้น ในปี 2023 ผ่านไป สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ประเทศไทยสามารถส่งออกข้าวไปตลาดโลกเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายอีก 1 ล้านตัน โดยเป้าหมายเดิมอยู่ที่ 7.5 ล้านตัน เพิ่มเป็น 8.5-8.8 ล้านตัน เนื่องจาก ประเทศอินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก สั่งห้ามส่งออกข้าวเกือบทุกชนิดในปีผ่านไปจนถึงราวไตรมาสที่ 1 ในปีนี้ 2024 โดยหวังแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อในอินเดีย จึงอาจทำให้ประเทศอินเดียอาจจะส่งออกลดลงจากปี 2565 ที่ส่งออกได้ 22.2 ล้านตัน ในขณะแต่ที่ช่วง 10 เดือนแรกปี 2023 ประเทศอินเดียส่งออกข้าวลดลงเหลือ 16.6 ล้านตัน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles