สำนักงานสถิติแห่งชาติ จีน เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ หรือจีดีพีไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ในปีนี้ และเติบโตขึ้น 4.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 ผ่านมา ถึงแม้ว่าตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 3 จะขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ แต่เป็นการเติบโตที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2023 หรือในรอบ 1 ปี 9 เดือน หรือต่ำสุดในรอบ 7 ไตรมาส
สาเหตุจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่เรื้อรังในจีนยังคงส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้จ่ายของประชาชนในประเทศจีน ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจในภาพใหญ่มีการฟื้นตัวที่ไม่แน่นอน ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่เดือนกันยายนในจีน พบว่า ตกต่ำลงถึง -5.8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับในปีผ่านมา ส่งผลทำสถิติยอดขายบ้านใหม่ที่ทรุดตัวลงเร็วที่สุดในรอบ 9 ปี 4 เดือน หรือตั้งแต่พฤษภาคมปี 2015 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังตกต่ำมากและต่อเนื่องจากเดือนสิงหาคมที่มียอดขายบ้านใหม่ตกต่ำ -5.3% ที่สำคัญยอดขายบ้านใหม่ยังร่วงลงถึง 15 เดือนติดต่อกัน
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ และนักวิเคราะห์ล้วนมองว่ามาตรการพลิกฟื้นและกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปีของธนาคารกลางจีน ประกอบด้วย การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมสำคัญอื่นๆ การอัดฉีดเงิน 1 ล้านล้านหยวน หรือกว่า 4.75 ล้านล้านบาท รวมถึงมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ และมาตรการใช้จ่ายของรัฐบาล เช่น การแจกเงินให้ประชาชนยากจนข้นแค้น การเตรียมออกพันธบัตรรัฐบาลจีนมูลค่า 2 ล้านล้านหยวน หรือกว่า 9.5 ล้านล้านบาท เป็นต้น ที่ประกาศเมื่อสิ้นเดือนกันยายนผ่านมา ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวได้ โดยเฉพาะการรักษาภาวะการขยายตัวในปีนี้ให้เข้าเป้าหมายที่ 5% ของรัฐบาลจีน
ด้านผลสำรวจมุมมองการขยายตัวเศรษฐกิจจีนของสำนักข่าวรอยเตอร์ส พบว่า ส่วนใหญ่ล้วนประเมินเศรษฐกิจจีนจะเติบโตที่ระดับ 4.8% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลจีนที่ 5% ที่สำคัญผลสำรวจนี้ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตในปี 2025 เพียง 4.5%