ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่าประเทศไทยพึ่งพาการบริโภคในสัดส่วนที่สูงขึ้น และฐานประชากรในอนาคตอาจมีกำลังซื้อจำกัด เสี่ยงทำให้การบริโภคในประเทศโตช้า ไทยต้องปรับโครงสร้าง เศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มรายได้และคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน รวมถึงดึงคนและแรงงานต่างชาติที่มีทักษะและมีศักยภาพเข้ามา เพื่อเพิ่มการบริโภคในประเทศ
โครงสร้างประชากรไทยเปลี่ยนไป ทั้งจากจำนวนประชากรที่เริ่มลดลง และการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมสูงวัยขั้นสุดยอด (Super-aged society) ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทย 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1) การขาดแคลนแรงงานในระดับที่รุนแรงขึ้น 2) การบริโภคในประเทศที่โตช้าลง 3) ภาระทางการคลังที่เพิ่มขึ้น ซึ่ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ประเมินผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรในเรื่องปัญหาการขาดแคลนแรงงานไปแล้วในงานวิจัยก่อนหน้า สำหรับงานวิจัยฉบับนี้ จะเน้นที่การประเมินผลกระทบและข้อเสนอแนะในเรื่องของโครงสร้างประชากรไทยที่เปลี่ยนไปต่อการชะลอตัวของการบริโภคในประเทศ
ไทยพึ่งพาการบริโภคในประเทศในสัดส่วนที่สูงขึ้น แต่การเติบโตกลับมีแนวโน้มชะลอลงจากปัจจัยฉุดทางด้านเศรษฐกิจและกำลังซื้อ โดยในปี 2023 มีสัดส่วนอยู่ที่ 58% ของ GDP เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาที่มีสัดส่วน 53% สวนทางกับประเทศอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ที่กำลังจะเป็นสังคมสูงวัยขั้นสุดยอดไล่เลี่ยกับไทย แต่มีแนวโน้มพึ่งพาการบริโภคในประเทศลดลงจาก 37% เหลือเพียง 31% หรือแม้แต่เวียดนามและอินโดนีเซียที่กำลังจะเข้าสู่สังคมสูงวัยก็เริ่มเห็นสัดส่วนการพึ่งพาการบริโภคในประเทศลดลงเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่าประเทศเหล่านี้ มีแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านอื่นๆ มาเสริม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา การบริโภคในประเทศของไทยเติบโตชะลอลงจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจที่กระทบกำลังซื้อ ค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาสินค้าและบริการแพงขึ้น รวมถึงภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ดังนั้น ไปข้างหน้า หากจำนวนประชากรไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จะฉุดการบริโภคในประเทศให้ขยายตัวช้าลงอีก
โครงสร้างประชากรไทยที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่รายได้ประชากรมีความไม่แน่นอนตามสถานการณ์เศรษฐกิจ การบริโภคที่อาจลดลงจากทั้งผู้สูงอายุที่ใช้จ่ายน้อยลงและจำนวนประชากรที่น้อยลง จะยิ่งส่งผลลบต่อการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฐานประชากรไทยในอนาคตมีกำลังซื้อจำกัด ดังนี้
ผู้สูงอายุไทยที่จะกลายมาเป็นฐานประชากรที่สำคัญมีรายได้น้อย เห็นได้จากผู้สูงอายุไทยกว่า 34% มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่าเส้นความยากจน (Poverty Line) และในบรรดาผู้สูงอายุที่ยังทำงานทั้งหมด 5.1 ล้านคน พบว่า 3.7 ล้านคน ประกอบอาชีพในภาคเกษตร (59%) และภาคการค้า (14%) ซึ่งมีค่าจ้างเฉลี่ยต่ำกว่าอาชีพอื่นๆ ส่งผลกดดันการบริโภคของผู้สูงอายุไทย
แรงงานไทยมีผลิตภาพแรงงานต่ำ และส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในธุรกิจที่มีค่าตอบแทนน้อย ผลิตภาพแรงงานไทยมีการขยายตัวเฉลี่ยต่อปีค่อนข้างต่ำอยู่ที่ราว 1.5% (CAGR 2014-2022) และส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอยู่ในธุรกิจที่มีค่าตอบแทน/รายได้ต่ำ โดยเฉพาะในภาคเกษตรที่ผลิตภาพแรงงานน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับภาคธุรกิจอื่นๆ แต่กลับมีสัดส่วนแรงงานที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมนี้สูงถึงราว 30% ของจำนวนผู้มีงานทำทั้งหมด ขณะที่แรงงานภาคเกษตรมีรายได้เฉลี่ยเพียง 6,975 บาทต่อเดือนเท่านั้น ส่งผลให้แรงงานกลุ่มนี้มีความสามารถในการบริโภคที่จำกัด