เสียวหมี่ (Xiaomi) ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน และเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังระดับโลกจากจีน กลายเป็นแบรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีที่มีขนาดใหญ่อันดับ 8 ของประเทศจีน เนื่องจากการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรืออีวีประเภทรถซีดานในรุ่นแรกของเสียวหมี่มีชื่อรุ่น เอสยู7 (SU7) ด้วยยอดจองมากกว่า 7,000 คันเมื่อเดือนเมษายนผ่านมา
เสียวหมี่เข้าสู่ตลาดรถอีวีในจีนแผ่นดินใหญ่ท่ามกลางสงครามลดราคาของทั้งค่ายผู้ผลิตรถอีวีในจีน และต่างประเทศ รวมถึงสตาร์ทอัพผลิตรถอีวี ในขณะที่ ความต้องการซื้อหารถอีวีชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องในตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ สำหรับเสียวหมี่ถูกจัดอยู่ในประเภทบริษัทเทคโนโลยีที่ร่วมผลิตรถอีวี ซึ่งไม่แตกต่างจากแบรนด์รถอีวี เช่น นีโอ (Nio) เอ็กซ์เผิง (Xpeng)
ในเดือนเมษายนผ่านไป เสียวหมี่กวาดยอดจองรถอีวีรุ่นแรกของบริษัท ได้แก่ เอสยู7 ด้วยจำนวน 7,058 คัน ท่ามกลางเป้าหมายในการผลิตและจัดส่งรุ่นดังกล่าวให้ได้ 100,000 คันในสิ้นปีนี้ นั่นหมายถึง เสียวหมี่ต้องมียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 11,618 คันในช่วงที่เหลือของปีนี้
ที่สำคัญ สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ข้อมูลจากแพลทฟอร์มตลาดรถยนต์ชื่อว่า Dongchedi ในจีน พบว่า แบรนด์รถอีวีเสียวหมี่สามารถแซงขึ้นเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่อันดับ 8 ในประเทศจีน โดยคว่ำแบรนด์รถอีวีฉางอัน ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจผลิตรถอีวีของจีนลงมาอยู่อันดับ 9 ในปีนี้
สำหรับเป้าหมายการขายรถอีวีแบรนด์เสียวหมี่ในรุ่นเอสยู 7 ที่เดือนละกว่า 11,000 คันในช่วงที่เหลือปีนี้ ส่งผลให้เสียวหมี่เข้าใกล้ค่ายรถยนต์ต่างชาติชื่อดังระดับโลก ได้แก่ โฟล์คสวาเก้น ที่ผลิตรถยนต์และรถอีวีร่วมกับ 2 บริษัทท้องถิ่นในจีน ในเดือนเมษายนผ่านไป โฟล์คสวาเก้นส่งมอบรถอีวีได้เป็นจำนวน 13,108 คันในตลาดจีน โดยมีราคาขายเริ่มต้นถูกกว่ารถอีวีเสียวหมี่รุ่นเอสยู 7 อยู่ที่คันละ 215,900 หยวน หรือคันละ 1.08 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ในชิงไห่ จีนแผ่นดินใหญ่ คาดการณ์ว่าเสียวหมี่จะมียอดขายรถอีวีในปี 2025 ที่จำนวน 240,000 คัน และในปี 2026 จะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 348,000 คัน