นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ว่า ในมุมมองของภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างชาติ มองว่าการเมืองเจอวิกฤตขาดความเชื่อมั่นอย่างรุนแรง
ประกอบกับไทยกำลังเผชิญปัญหารุมเร้ามากมาย ตั้งแต่ภาษีทรัมป์ ภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้าโลก สงครามระหว่างประเทศ ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา การปิดด่านของเมียนมา ส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจ ที่จะลุกลามไปสู่การประกอบธุรกิจ ความเชื่อมั่นต่อการบริโภค การลงทุน การท่องเที่ยว ดังนั้น ไม่ว่าผลคดีจะเป็นอย่างไร แต่จากนี้ภาคเอกชนต้องการเห็นการฟอร์มคณะรัฐมนตรีที่ดี ได้บุคลากรที่มีฝีมือและเป็นที่ยอมรับเข้าบริหารประเทศ
นายพจน์ กล่าวด้วยว่า วันนี้จะเรียกคืนศรัทธา โดยการเมืองนำ การเมืองต้องมีเสถียรภาพก่อน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่วนการจะฟื้นเศรษฐกิจได้เร็วหรือช้า ก็ขึ้นกับคนทำงาน ที่ต้องจริงจัง รู้ว่าทำอย่างไรที่จะดันเศรษฐกิจฟื้นตัว รัฐต้องร่วมมือกับภาคเอกชนให้มากขึ้นอีก เพื่อให้รู้สถานการณ์และวางแผนในการขับเคลื่อนปัญหาต่างๆ ถ้าจะล้างไพ่ทางการเมือง เอกชนไม่ได้มองว่าจะเป็นใคร แต่ขอให้มีความสามารถเฉพาะด้านที่จะเข้ามาแก้ไขและบริหารงานให้เกิดผลโดยเร็ว วันนี้ไม่แค่เรา แต่ต่างชาติ ที่ติดตามการเมืองและเหตุการณ์ในบ้านเรา ยิ่งช้าเขาจะยิ่งลังเลต่อลงทุนใหม่ แม้แต่การเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย ความเชื่อมั่นขึ้นกับเสถียรภาพรัฐบาล การเมืองไม่เสถียรจะกระเทือนไปหมด เพิ่มวิกฤตเศรษฐกิจไทยให้แย่ลงไปเรื่อยๆ