นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับรัฐบาลที่มีแผนการเก็บเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT เนื่องจากประเทศไทยมีการพึ่งพารายได้จากภาษี VAT ซึ่งเป็นการจัดเก็บภาษีที่มีความเป็นธรรม และโปร่งใสมากที่สุดรูปแบบหนึ่ง เมื่อเทียบกับการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่สำคัญเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังผู้บริโภคว่าในอีก 3 ปี และอีก 5 ปีข้างหน้า ราคาสินค้า และบริการจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างแน่นอนตามอัตราภาษีใหม่
การส่งสัญญาณล่วงหน้าในการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจะสร้างแรงจูงใจทางจิตวิทยาให้ประชาชน และภาคครัวเรือนที่มีแผนจะซื้อสินค้าขนาดใหญ่ เช่น รถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เร่งตัดสินใจซื้อในช่วง 1-3 ปีนี้ก่อนที่ภาษีจะปรับขึ้นจริง ที่สำคัญ นโยบายนี้จะกลายเป็นตัวกระตุ้นการใช้จ่าย และการบริโภคภายในประเทศในระยะสั้นถึงระยะกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมองว่านี่คือผลบวกต่อเศรษฐกิจในระยะสั้นถึงกลาง และเป็นการส่งเสริมให้เกิดการบริโภค
ขณะเดียวกัน หากรัฐบาลประกาศขึ้นภาษีโดยให้มีผลในทันที ผลกระทบเชิงลบต่อการบริโภคจะรุนแรง และฉับพลัน แต่การวางแผนระยะยาวเช่นนี้เปิดโอกาสให้ทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการได้เตรียมตัวและปรับแผนการเงิน ซึ่งจะช่วยลดแรงกระแทกทางเศรษฐกิจลงได้มาก สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT เป็นภาษีที่เก็บจากการบริโภค ใครบริโภคมากก็จ่ายมาก สามารถสะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริง และหลีกเลี่ยงได้ยาก