นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่จัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่แล้ว เรื่องเร่งด่วนและใกล้เวลาที่อยากให้เร่งดำเนินการ คือ การเจรจากับสหรัฐอเมริกา ถึงนโยบายภาษีตอบโต้ โดยล่าสุดไทยได้รับนัดหมายจากสหรัฐแล้ว ก็ต้องเร่งเจรจาให้จบ ถือว่าไทยเราได้โอกาสในการเจรจาแล้ว ก็ต้องทำให้ดีที่สุด ซึ่งการตั้งครม.ชุดใหม่ถือว่ามีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มในการไปเจรจา เป็นเรื่องอย่างน้อยก็ไม่ติดขัดเรื่องอำนาจในการไปเจรจา
ทั้งนี้คาดว่าการที่รัฐบาลไทย นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางไปเยือนสหรัฐสัปดาห์นี้ น่าจะทันตามไทม์ไลน์ที่สหรัฐ กำหนดผ่อนผัน 90 วัน ในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเหลืออีกราว 10 วัน และการที่ไทยได้รับการนัดหมายมาแล้ว แปลว่าไม่ได้หลุดออกจากกรอบการเจรจา ขณะเดียวกันข้อดีของไทยคือเราได้ส่งข้อเสนอ 5 เรื่องที่เราจะปรับปรุงแก้ไขให้สรัฐไปแล้ว ซึ่งสหรัฐเองก็มีความเห็นกลับมาบางอย่างตามเงื่อนไข ดังนั้น สำหรับการเจรจาครั้งนี้ ถ้าเตรียมการดี ก็น่าจะเป็นประโยชน์และน่าจะมีโอกาสเชิงบวกมากกว่า
อย่างไรก็ดี เท่าที่ติดตามสถานการณ์ของนานาชาติเจรจากับสหรัฐ ผลคงไม่ถึงขนาดที่ทำการค้าขายอะไรกันไม่ได้ เพราะของบางอย่างบางประเทศ อาทิ อังกฤษก็ตกลงกันเลยเรียบร้อยแล้ว แต่ล่าสุดกรณีแคนาดามีข่าวมาว่าน่าจะยังมีปัญหาอยู่ เพราะในระหว่างเจรจาแคนาดาไปขึ้นภาษีด้านบริการกับสหรัฐ ทำให้สหรัฐสั่งยุติการเจรจาไปก่อน เพราะฉะนั้นมีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่าระหว่างการเจรจานั้น ควรจะทำให้ราบรื่น
นอกจากนี้เรื่องภาษีตอบโต้ของสหรัฐ ยังมีหลายภาคส่วนประมาณการ สมมติฐานหนึ่ง คือ สหรัฐอาจจะตัดสินใจขยายระยะเวลาผ่อนผัน จากระยะเวลาผ่อนผัน 90 วันก่อนหน้านี้ใกล้หมดแล้ว แต่ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังไม่ได้คิวในการเจรจา เพราะฉะนั้นก็ยังมีโอกาสที่ประเทศที่ได้เจรจาไประดับหนึ่งแล้ว ได้รับการยืดเวลาเพื่อการเจรจาออกไป
โดยการยืดเวลาเป็นไปได้หลายกรณี คือ 1.ยืดให้ทุกประเทศที่จะขึ้นภาษีตอบโต้ หรือ 2.อาจจะแบ่งเป็นกลุ่มว่า กลุ่มนี้ไม่เจรจาหรือเจรจาไม่สำเร็จ ก็เก็บภาษีเต็มตามประกาศ ส่วนกลุ่มประเทศที่เจรจาแล้ว หรืออยู่ระหว่างเจรจาก็ได้ภาษีใหม่อีกอัตราที่ผ่อนปรนขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงสมมติฐาน ยังไม่มีอะไรแน่นอน ก็คงต้องติดตามใกล้ชิด เพราะเรื่องนี้สำคัญตรงที่ว่าคู่แข่งทางการค้าไทยเราได้ภาษีอัตราเท่าไหร่ แล้วได้เท่าไหร่ โดยปัจจุบันเวียดนามคู่เทียบกับไทย ได้เจรจากับสหรัฐไปก่อนแล้วแต่ก็ยังไม่จบ ทำให้ขณะนี้ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ทางสหรัฐได้รับนัดและให้คิวเจรจามาตรการภาษีกับประเทศไทยแล้ว ซึ่งนายพิชัย ในฐานะหัวหน้าทีมเจรจา พร้อมคณะทำงานจะเดินทางไปสหรัฐสัปดาห์นี้ อีกทั้งนายพิชัย ได้ระบุว่ารัฐบาลไทยได้จ้างบริษัทที่ปรึกษาหรือ Lobbyist ในสหรัฐอยู่ภายใต้กฎหมาย FARA (Foreign Agents Registration Act) ด้วย เพื่อให้การเจรจาของไทยราบรื่นที่สุด