นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2568 น่าจะยังไม่ดีขึ้นและมีแนวโน้มอาจจะแย่กว่าปี 2567 เนื่องจากยังมีปัจจัยที่มีผลกระทบ โดยเฉพาะนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ที่อาจจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกและรวมถึงเศรษฐกิจไทยด้วย นอกจากนี้คนยังไม่ค่อยมั่นใจต่อเศรษฐกิจ ทำให้ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว แต่ในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ยังไม่น่าห่วง เพราะยังขายได้ แต่ที่น่าห่วงคือสินค้าแฟชั่นและเครื่องสำอาง ที่ปัจจุบันเทรนด์ตลาดเปลี่ยนไปสู่การค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น
โดยส่วนตัวมองว่าการที่รัฐบาลมีโครงการอีซี่ อีรี-ซีท ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท ถือว่าเป็นโครงการที่ดี แต่สามารถกระตุ้นได้เพียงระยะสั้นเท่านั้น และไม่ได้กระจายรายได้ถึงร้านค้ารายย่อย หากรัฐบาลสามารถนำโครงการคนละครึ่งกลับมาใช้อีกครั้ง มองว่าจะช่วยกระตุ้นได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงโครงการเที่ยวคนละครึ่งที่รัฐบาลมีแผนจะออกมานั้นก็ถือว่าดี และน่าจะต้องมีการกระตุ้นให้คนเที่ยวได้ทั้งไฮซีซั่นและโลว์ซีซั่น
อย่างไรก็ดีสิ่งสำคัญรัฐบาลต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น ทำให้คนมีกำลังใจและออกมาใช้เงิน รวมถึงเร่งดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยการออกมาตรการส่งเสริมและให้สิทธิประโยชน์ด้านต่างๆที่เป็นการจูงใจได้มากกว่าประเทศอื่นๆ เช่น เวียดนาม เป็นต้น