“เอกนิติ” ยินยันเข็นจีดีพี ไตรมาส 4 ขึ้นจากหล่ม ด้วยนโยบาย “Quick Big Win” เสาหลัก กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และเติบโตในระยะยาว 

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ Thailand 2026 “ปรับ-เปลี่ยน-ไปต่อ” ว่า หัวข้อนี้อยู่ในตั้งแต่วันที่ตนตอบรับเข้ามารับตำแหน่งรมว.คลัง ไทยเจอสังคมผู้สูงอายุ กำลังแรงงานน้อย เจอหนี้ครัวเรือน และขีดความสามารถแข่งขันที่ถูกแซงไปเรื่อย ๆ โดยสิ่งแรกต้องปรับมุมมองก่อน คือ ยอมรับความจริงว่าปัญหาคืออะไร แล้วเราจะเปลี่ยนอย่างไร และออกนโยบายไปต่ออย่างไร ซึ่งต้องลงมือทำวันนี้เลย ไม่ต้องรออนาคต ดังนั้นจึงเกิดนโยบาย “Quick Big Win”

อย่างไรก็ตาม ยอมรับความเป็นจริงว่า เศรษฐกิจไทยชะลอลงเรื่อย ๆ ล่าสุด ไตรมาส 3 เศรษฐกิจเริ่มชะลอเหลือแค่ 1.2% ส่วนไตรมาส 4 ถ้าไม่ทำอะไรเลย อาจเหลือ 0.3% ถึงขั้นติดหล่ม จึงต้องเปลี่ยนวิธีคิด ซึ่งมีหลายเซกเตอร์ที่ต้องใช้พลังประเทศในการช่วยเหลือ และบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ผ่านมาของไทยไม่มีความคึกคัก ทุกอย่างอ่อนตัว แต่วันนี้ดัชนีผู้บริโภคกลับมาดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้เปลี่ยนมุมคิด ให้มีการกระตุ้นในระยะสั้น และเติบโตในระยะยาว และต้องกระจายตัว และให้เกิดการใช้ดิจิทัลมากขึ้น เช่น โครงการคนละครึ่ง พลัส ที่ต้องการให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว โดยใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด ที่สำคัญโครงการคนละครึ่ง พลัส นั้นคือการเสริมทักษะให้พ่อค้า แม่ค้า ไม่ใช่ให้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะผู้ซื้อ แต่ให้ฝั่งผู้ขายด้วย และถือเป็นครั้งแรก ที่รัฐบาลจับมือกับภาคเอกชนทางด้านนี้

สำหรับ การเพิ่มทักษะให้กับพ่อค้า แม่ค้า ได้รับการตอบรับที่ดี มีหลายคนมานั่งเรียน เพื่อเพิ่มทักษะทางด้านการขายผ่านออนไลน์ ซึ่งจากข้อมูลพบว่า มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า และยังส่งผลไปยังไรเดอร์ มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 15 % และนี้ถือเป็นการกระตุ้นสั้น ได้ผลยาว และทำให้พ่อค้า แม่ค้า ทำเป็นตลอดชีวิต และเงินจากโครงการคนละครึ่ง พลัส กระจายไปทั่วประเทศ เพราะมีอยู่ในกทม.แค่ 16% เท่านั้น ที่เหลือส่วนใหญ่กระจายอยู่ในต่างจังหวัด

พร้อมระบุว่า หลังจากดำรงตำแหน่งมา 6-7 สัปดาห์ รัฐบาลได้ดำเนินแผนการฟื้นเศรษฐกิจ ซึ่งอยู่ในเสาหลักที่ 1 ได้ครบแล้ว ทั้งการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่งพลัส โครงการเที่ยวดีมีคืน ซึ่งรัฐบาลไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่ยังมีการเพิ่มทักษะการเงิน และทักษะด้านการค้าออนไลน์ให้กับร้านค้ารายย่อย ส่วนผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก มีโอกาสนำค่าใช้จ่ายจากการรีโนเวทไปหักภาษีได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันได้อีกทาง

ส่วน ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทย เป็นปัญหาที่ยังไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจัง ดังนั้นจึงจับมือกับธนาคารแห่งประเทศ และสมาคมธนาคารไทย เพื่อดึงหนี้คนตัวเล็กหรือหนี้รายย่อย ที่มียอดหนี้ไม่เกิน 1 แสนบาท ให้มาอยู่ในการบริหารของบริษัทบริหารสินทรัพย์ โดยรับซื้อหนี้มาจากธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ มาปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรน ทั้งการตัดหนี้ ลดหนี้ ลดดอกเบี้ย ประกอบกับการฟื้นฟูทักษะความรู้ทางการเงิน เพื่อให้กลับมาเป็นลูกหนี้ที่มีประวัติดี สามารถเข้าถึงสินเชื่อใหม่ได้ ภายใต้โครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้”

สำหรับมาตรการช่วยเหลือ SMEs รัฐบาลกำลังจัดทำเป็นแพ็คเกจเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้แก่ SMEs เนื่องจากได้ดูต้นตอปัญหาที่ผ่านมาแล้ว พบว่า แม้จะมีการลดดอกเบี้ย แต่ธนาคารก็ยังไม่ปล่อยกู้ โดยจะทำโครงการพี่ช่วยน้อง ด้วยการให้บริษัทจะทะเบียนขนาดใหญ่ เข้ามาช่วยเหลือบริษัท SMEs รายย่อย ในรูปแบบ Supply Chain Financing

โดยเชื่อมั่นว่า มาตรการ Quick Big Win ที่สำเร็จไปบางเรื่องนั้น น่าจะช่วยดึงเศรษฐกิจที่กำลังติดหล่ม ให้ดีขึ้นมาได้ในช่วงไทยไตรมาส 4

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles