แกร็บ ผนึก วิทยาลัยดุสิตธานี ยกระดับอุตสาหกรรมเรียกรถ คว้ากูรูอัพสกิลคนขับ เสริมทักษะด้านบริการ-สื่อสาร-ดูแลยานพาหนะ

 แกร็บ ประเทศไทย ตอกย้ำบทบาทผู้นำแพลตฟอร์มเรียกรถอันดับหนึ่ง จับมือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) สานต่อโครงการ GrabAcademy คว้า “วิทยาลัยดุสิตธานี” ร่วมพัฒนาหลักสูตรอบรมคนขับภายใต้คอนเซ็ปต์ “ยกระดับมาตรฐาน บริการด้วยหัวใจ” เสริมประสิทธิภาพการให้บริการและสร้างความประทับใจให้ผู้โดยสาร พร้อมเสริมทัพด้วยการดึงผู้เชี่ยวชาญมาพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารเพื่อสร้างความประทับใจ โดย ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน นักสื่อสารและพิธีกรชื่อดัง และการดูแลรักษายานพาหนะ โดย บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้นำแบรนด์รถจักรยานยนต์ชั้นนำ และบี-ควิก ศูนย์บริการรถยนต์แบบครบวงจร หวังยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมเรียกรถผ่านแอปฯ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว

เมธิณี อนวัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจการเดินทางและบริหารคนขับ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “รถรับจ้างสาธารณะเป็นหนึ่งในบริการที่ช่วยตอบสนองการเดินทางในชีวิตประจำวันและมีส่วนช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศ โดยมาตรฐานของคนขับและคุณภาพการให้บริการถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยสร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสารทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ  ในฐานะผู้บุกเบิกบริการเรียกรถผ่านแอปฯ แกร็บมุ่งมั่นที่จะช่วยส่งเสริมและยกระดับอุตสาหกรรมการเดินทาง ตลอดจนระบบขนส่งสาธารณะของไทยให้ก้าวไปข้างหน้า โดยนอกจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและความปลอดภัยแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของคนขับอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้แกร็บจึงได้จับมือพันธมิตรจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้และพัฒนาทักษะให้กับคนขับทั้งในด้านบริการ การสื่อสาร และการดูแลยานพาหนะ เพื่อมุ่งสร้างความประทับใจให้ผู้ใช้บริการและช่วยยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมโดยรวม”

สำหรับการพัฒนาศักยภาพของคนขับในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ยกระดับมาตรฐาน บริการด้วยหัวใจ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ GrabAcademy ซึ่งริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2563 โดยความร่วมมือระหว่าง แกร็บ ประเทศไทย และ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (หรือ ดีป้า) เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับคนขับและผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยได้พัฒนาและนำเสนอคอร์สอบรมที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการอย่างต่อเนื่อง อาทิ เทคนิคการให้บริการ การวางแผนภาษีและการเงินเบื้องต้น การสื่อสารภาษาต่างชาติเบื้องต้นเพื่อการบริการ เป็นต้น โดยปัจจุบันมีการจัดทำคอร์สอบรมสำหรับคนขับจำนวนทั้งสิ้น 32 หลักสูตร และมีคนขับให้ความสนใจเข้าชมและเรียนรู้รวมกว่า 3 ล้านครั้ง

ไฮไลท์สำคัญของการพัฒนาความรู้และทักษะของคนขับภายใต้แนวคิด “ยกระดับมาตรฐาน บริการด้วยหัวใจ” ประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก ได้แก่

 ·  หลักสูตร “5 ดีให้ได้ 5 ดาว” โดย วิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันการศึกษาด้านอุตสาหกรรมการบริการชั้นนำ ซึ่งปูพื้นฐานพร้อมแนะนำเทคนิคให้บริการด้วยหัวใจ ซึ่งประกอบด้วย “ดูดี” ทั้งการรักษาสุขอนามัย บุคลิกภาพ และการแต่งกาย “มารยาทดี” โดยเน้นให้บริการด้วยความสุภาพ อ่อนน้อม รู้จักกาลเทศะ  พร้อมดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง “รู้ดี” โดยรู้จักประเมินความพร้อมในการให้บริการของตนเอง

รู้ความต้องการของลูกค้า รวมถึงวิธีการใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ “พูดดี” โดยสื่อสารกับลูกค้าด้วยถ้อยคำและน้ำเสียงที่สุภาพ เหมาะสม และ “คิดดี” คือมีทัศนคติเชิงบวกและตระหนักถึงบทบาทของการเป็นผู้ให้บริการกับผู้โดยสารและเป็น “ด่านหน้า” ที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว

· หลักสูตร “ไม่ใช่แค่การสื่อสาร แต่คือการสร้างความประทับใจ”โดย ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน ซึ่งนำเสนอทักษะและเทคนิคการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงแนะนำบทสนทนาภาษาต่างชาติเบื้องต้นให้กับคนขับ โดยถอดบทเรียนจากประสบการณ์การใช้บริการจริงเพื่อนำมาเป็นแนวทางในการสื่อสารและรับมือกับลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการสร้างความประทับใจอันจะนำไปสู่คะแนนรีวิว 5 ดาวและทิปพิเศษจากผู้โดยสาร

· หลักสูตร “ดูแลรถ ขัดเงาภาพลักษณ์ ยกระดับบริการ” โดยผู้เชี่ยวชาญจาก บี-ควิก ศูนย์บริการรถยนต์แบบครบวงจร และ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้นำแบรนด์รถจักรยานยนต์ชั้นนำ ซึ่งมาร่วมแชร์เทคนิคและวิธีการดูแลรักษายานพาหนะเบื้องต้น ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพื่อเสริมทักษะให้คนขับสามารถตรวจประเมินสภาพและบำรุงรักษารถ ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำงาน ให้พร้อมบริการผู้โดยสารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

“แกร็บพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น มาตรฐานด้านความปลอดภัย นวัตกรรม รวมถึงคุณภาพในการให้บริการ เพราะเราเชื่อว่าบริการนี้ไม่เพียงช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับผู้คนจำนวนมาก แต่ยังเป็นด่านแรกในการต้อนรับและสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดินทางออกมาจากสนามบิน โดยเราหวังว่าหลักสูตรต่างๆ ภายใต้โครงการ GrabAcademy จะช่วยพัฒนาความรู้และทักษะให้กับคนขับ และมีส่วนช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมเรียกรถ ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศของเราต่อไป”

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles