ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 42,156 จุด -173 จุด หรือ -0.41% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,708 จุด -53 จุด หรือ -0.93% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 17,910 จุด -278 จุด หรือ -1.53%
ขณะที่ในคืนผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงระหว่างวันการซื้อขาย พบว่านักลงทุนแห่เทขายหุ้นอย่างรุนแรงจากการตอบโต้ขิงอิหร่านด้วยขีปนาวุธจำนวนมากมายไปยังอิสราเอล ส่งผลให้ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ที่ระดับ 41,990 จุด -339 จุด หรือ -0.80% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ที่ระดับ 5,696 จุด -65 จุด หรือ -1.14% และดัชนีหุ้นนาสแดค เคลื่อนไหวที่ 17,896 จุด -319 จุด หรือ -1.76%
ในเดือนกันยายน ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดขึ้น +2% ทำสถิติดีที่สุดในรอบ 11 ปี หรือตั้งแค่เดือนกันยายนปี 2011 เป็นต้นมา และยังปิดเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ขณะที่จบไตรมาส 3 ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดขึ้น +8.2%, +5.5% และ +2.6% ตามลำดับ ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดขึ้น +0.6%, +0.6% และ +1% ตามลำดับ
สาเหตุจากการโจมตีตอบโต้ของอิหร่านที่มีต่ออิสราเอลในคืนผ่านมา อิหร่านยิงขีปนาวุธจำนวนหลายร้อยกว่าชุดมายังประเทศอิสราเอลเพื่อเป็นการแก้แค้นที่ในสัปดาห์ผ่านมา อิสราเอลโจมตีหลายเป้าหมายในประเทศเลบานอนใส่กลุ่มฮิซบอเลาะห์ที่อิหร่านสนับสนุน ซึ่งทำให้ผู้นำสูงสุด และระดับผู้บัญชาการของกลุ่มดังกล่าวเสียชีวิตหลายคน ขณะที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นายเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่า อิสราเอลสามารถสกัดขีปนาวุธอิหร่านในหลายจุดตกในจอร์แดน และประกาศว่าอิหร่านจะต้องชดใช้อย่างเจ็บปวดกับการโจมตีในคืนผ่านมา
นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองสหรัฐอเมริกาเนื่องจากเหลือเวลาอีกราว 5 สัปดาห์ที่จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในวันศุกร์ ได้แก่ รายจ่ายส่วนบุคคลชาวอเมริกันเดือนสิงหาคม
ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ มีโอกาสที่ 59% จากเดิมที่ 61% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลดลง 0.5% และมีโอกาสที่ 41% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลง 0.25%