น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนมิ.ย. ชะลอลงจากเดือนก่อน โดยการส่งออกสินค้า และภาคการผลิตลดลง หลังเร่งตัวไปในช่วงก่อนหน้าเพื่อให้ทันก่อนที่จะสิ้นสุดการผ่อนผันการปรับขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ของสหรัฐฯ รวมทั้งกิจกรรมที่เกี่ยวกับภาคการท่องเที่ยวก็ปรับตัวลดลง ตามจำนวนและรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงการบริโภคภาคเอกชนลดลงในเกือบทุกหมวด อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายภาครัฐ และการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง
ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ติดลบน้อยลงจากเดือนก่อน เนื่องจากผลของหมวดอาหารสด โดยเฉพาะราคาผักผลไม้สดที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อน ส่วนตลาดแรงงานทรงตัว และต้องติดตามสัดส่วนผู้ขอรับสิทธิว่างงานรวมที่ปรับเพิ่มขึ้น
การบริโภคภาคเอกชน เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน ตามการใช้จ่าย (1) หมวดบริการ โดยเฉพาะโรงแรมและภัตตาคาร สอดคล้องกับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง ขณะที่การใช้จ่ายของคนไทยยังเพิ่มขึ้น (2) หมวดสินค้าไม่คงทน ตามยอดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (3) หมวดสินค้าคงทน จากยอดจำหน่ายรถยนต์ที่ลดลง หลังมีการส่งมอบรถยนต์ไปมากในช่วงก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี หมวดสินค้ากึ่งคงทน เพิ่มขึ้นจากปริมาณการนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ด้านความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงต่อเนื่อง จากความกังวลต่อความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าสหรัฐฯ และเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้า รวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือน และธุรกิจที่ยังอยู่ในระดับสูง
การลงทุนภาคเอกชน เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จากหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ตามยอดจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศ สอดคล้องกับการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น สำหรับหมวดยานพาหนะทรงตัว โดยการนำเข้าเรือและยอดจดทะเบียนรถกระบะเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถประเภทอื่น ๆ อาทิ รถยนต์นั่ง และรถบรรทุกลดลง ด้านหมวดก่อสร้างทรงตัวเช่นกัน โดยหมวดที่มิใช่ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นตามพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ขณะที่หมวดที่อยู่อาศัย ลดลงตามพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ สอดคล้องกับอุปทานคงเหลือที่อยู่ในระดับสูง
มูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำในเดือนมิ.ย. ลดลงจากเดือนก่อน 4.8% และการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง โดยเฉพาะในหมวดยานยนต์ และหมวดอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสินค้าที่ 2 กลุ่มนี้ได้เร่งการส่งออกไปแล้วในช่วงก่อนหน้า เช่น การส่งออกคอมพิวเตอร์ไปยังจีน และฮ่องกง แต่หากเทียบการส่งออกเป็นรายไตรมาส จะพบกว่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำในช่วงไตรมาส 2 ขยายตัว 5.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 และขยายตัว 12% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 67 จากหมวดอิเล็กทรอนิกส์ที่อุปสงค์โลกยังขยายตัวได้ รวมถึงการเร่งส่งออกสินค้าบางส่วนไปยังสหรัฐฯ ก่อนจะสิ้นสุดระยะเวลาผ่อนผันการปรับขึ้นภาษี
สำหรับเงินบาทในเดือนมิ.ย. และก.ค. ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. จากผลของเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ตามความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจชะลอลงจากมาตรการภาษีทางการค้า ประกอบกับผู้ร่วมตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพด้านการคลังจากการใช้มาตรการภาษีของประเทศสหรัฐฯ เองด้วย
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากเดือนก่อน จากอัตราเงินเฟ้อหมวดอาหารสด ตามราคาผักที่เพิ่มขึ้น หลังผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง และอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงาน ตามราคาน้ำมันเบนซินที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยราคาเครื่องประกอบอาหารลดลงตามราคาน้ำมันพืช และราคาอาหารสำเร็จรูปลดลงตามการทำโปรโมชันอาหารโทรสั่ง (Delivery) ขณะที่ราคาอาหารพร้อมทานยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับภาวะตลาดแรงงานโดยรวมทรงตัวจากเดือนก่อน สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่เพิ่มขึ้นในภาคการผลิต ขณะที่การจ้างงานในภาคบริการลดลง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามสัดส่วนผู้ขอสิทธิว่างงานรวมและรายใหม่ต่อผู้ประกันตนรวมที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในสาขาสิ่งทอ เครื่องจักร ค้าปลีก และก่อสร้าง
ด้านดุลบัญชีเดินสะพัด กลับมาเกินดุลจากดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลลดลง ตามการส่งกลับกำไรไปต่างประเทศที่ลดลงหลังพ้นฤดูกาลจ่ายปันผล ขณะที่ดุลการค้าเกินดุลใกล้เคียงกับเดือนก่อน
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/68 นั้น ขยายตัวได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ที่ขยายตัวได้ 3.1% โดยมีแรงส่งจากการส่งออกสินค้า การผลิตภาคอุตสาหกรม การใช้จ่ายภาครัฐ และการลงทุนภาคเอกชน ขณะที่กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคท่องเที่ยวชะลอลง สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนการบริโภคภาคเอกชนทรงตัว
ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากหมวดพลังงานที่ปรับตัวลดลง ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตามการส่งผ่านต้นทุนในหมวดอาหาร ขณะที่ตลาดแรงงานทรงตัว โดยจำนวนผู้ประกันตนปรับดีขึ้น แต่จำนวนผู้ขอรับสิทธิว่างงานเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ขณะที่แนวโน้มระยะต่อไปนั้น น.ส.ชญาวดี กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอลงจากผลกระทบของนโยบายการค้าโลกต่อการส่งออกสินค้า การผลิตทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม และรายได้ของแรงงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มชะลอลง อย่างไรก็ดี ต้องติดตามผลของการเจรจาการค้าของไทยและประเทศต่าง ๆ กับสหรัฐฯ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พัฒนาการภาคการท่องเที่ยว และผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ตลอดจนผลจากมาตรการเศรษฐกิจ