นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติ กล่าวว่า ไม่ได้ขัดข้องกับภาพรวมของโครงการที่รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เรื่องของรูปแบบถ้าเป็นไปได้ อยากจะให้เจาะจง ช่วยเฉพาะกลุ่มที่ลำบาก คุ้มค่ากับเม็ดเงิน และประหยัดงบประมาณ และเป็นไปตามกรอบที่ควรจะเป็น
ส่วนการดำเนินการที่รัฐบาลจะใช้แหล่งเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) นั้น แบงก์ชาติไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินว่าทำได้ หรือ ทำไม่ได้ ต้องส่งให้กฤษฎีกาตีความให้ชัดเจน ก่อนว่า จะสามารถใช้แหล่งเงินตามมาตรา28 พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังได้หรือไม่และขึ้นอยู่กับบอร์ด ธ.ก.ส. เพราะธนาคารแห่งประเทศไทย มีหน้าที่แค่การกำกับดูแลเรื่องที่เกี่ยวกับการเงินทั่วไป
ส่วนกรณีนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย แสดงความห่วงใยและตั้งข้อสังเกตโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หลุดออกมาว่า ธปท.คัดค้านเรื่องนี้ เพราะใช้งบประมาณจำนวนมาก และ ก่อหนี้ระยะยาว นั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะไม่มีการส่งหนังสือถึงรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ซึ่งเอกสารลับไม่รู้ว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ยืนยันว่า ยังไม่เห็นรายละเอียดในเอกสาร และได้ยินเรื่องนี้จากสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก รวมถึงมีความสงสัยว่าหากมีเอกสารจริงทำไมไม่ส่งเอกสารถึงรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามสอบถามในที่ประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว ทางแบงก์ชาติก็บอกว่าไม่มีอะไรที่ชัดเจนและไม่มีข้อแนะนำอะไรส่งมาให้ โดยที่ประชุมได้มีการพูดคุยกันหลายส่วนและการประชุมครั้งล่าสุดจะนำเสนอผลสรุปต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. แล้ว และเป็นที่ทราบดีว่าผู้ว่าแบงก์ชาติไม่ได้เข้าร่วมประชุม ซึ่งในที่ประชุมได้มีการพูดคุยและสรุปในที่ประชุมแล้วว่าทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามข้อสรุป และมีการบอกอีกว่าหากมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมให้ส่งก่อนวันประชุม
ส่วนหลังจากนี้ จะต้องมีการตรวจสอบว่ามีเอกสารลับจากแบงก์ชาติจริงหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เอกสารยังไม่ส่งถึงรัฐบาล ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องตรวจสอบ มองว่า เรื่องนี้ควรไปสอบถามจากแบงก์ชาติเองว่ามีเอกสารลับจริงหรือไม่ หากจริง แล้วจะยื่นถึงรัฐบาลเมื่อไหร่และทำไมถึงไม่ยื่นให้กับรัฐบาล เพราะอย่างน้อยการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตมีถึง 3 ครั้ง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ได้มองว่าเป็นการดิสเครดิตรัฐบาล เพราะยังไม่เห็นเอกสารที่ชัดเจน แต่ถ้าอยากทราบว่ามีเอกสารรับจริงหรือไม่ สื่อควรไปสอบถามจากแบงก์ชาติเอง เพราะว่าสื่อได้รับเอกสาร ซึ่งรัฐบาลไม่ได้รับ
