นิโคลา (Nikola) ซึ่งเป็นธุรกิจประเภทสตาร์ทอัพผลิตรถหัวลากพลังงานไฟฟ้าหรืออีวีที่มีชื่อเสียงในประเทศสหรัฐอเมริกาประกาศธุรกิจล้มละลายและร้องขอต่อศาลเพื่อพิทักษ์ทรัพย์สินทั้งหมดตามมาตรา 11 ในสหรัฐอเมริกา ผู้บริหารของนิโคลายังเตรียมที่จะประกาศขายสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทอีกด้วย ในรายละเอียดที่ยื่นร้องขอต่อศาลพบว่าบริษัทนิโคลามีมูลค่าหนี้ระหว่าง 1,000 ล้าน ถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 34,000 ถึง 340,000 ล้านบาท ขณะที่เงินสดของบริษัทซึ่งในสิ้นปี 2023 เคยมีอยู่สูงถึง 465 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 15,810 ล้านบาท กลับหดหายเหลือเพียง 198 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6,732 ล้านบาท
สาเหตุที่รถหัวลากอีวีชื่อดังรายนี้ต้องล้มละลายเป็นผลมาจากความต้องการ และตลาดรถหัวลากอีวี รวมถึงรถบรรทุกอีวีเชิงพาณิชย์ซบเซาในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้การใช้เงินลงทุนไปเป็นจำนวนมากท่ามกลางยังไม่เกิดผลตอบแทนในทางธุรกิจที่ยั่งยืนแต่อย่างใด สาเหตุทั้งหมดส่งผลให้เกิดวิกฤตในการบริหารภายในบริษัท โดยมีการปลดปรับเปลี่ยนแปลงผู้บริหารหลายครั้ง ราคาหุ้นของบริษัทนิโคลาตกต่ำย่ำแย่มาอย่างต่อเนื่องเนื่องจากนักลงทุนไม่มีความมั่นใจในอนาคตของธุรกิจรถหัวลากอีวี
ธุรกิจประเภทสตาร์ทอัพที่ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มประเภทรถใดก็ตาม ซึ่งทำการระดมทุนด้วยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กนับตั้งแต่ช่วงเกิดวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 พบว่าในปัจจุบันธุรกิจประเภทสตาร์ทอัพดังกล่าวนั้นล้วนล้มละลายเป็นจำนวนมาก เช่น แบรนด์ฟิสเกอร์ (Fisker) ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตรถอีวีทั้งแบบรถเก๋งและรถเอสยูวีชื่อดังในสหรัฐ แบรนด์โปรเทอรา (Proterra) และแบรนด์ลอร์ดสทาวน์ มอเตอร์ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ล้มละลายเป็นจำนวนมากมาจากภาวะตลาดลดอีวีซบเซาและตกต่ำไม่เป็นไปตามที่คาดรวมถึงภาวะอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่อยู่ในระดับสูงและยังคงส่งตัวอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกาที่อยู่ในระดับสูงก่อนหน้านี้ถึงแม้จะเริ่มทยอยลดลงเข้าสู่เป้าหมายแต่ยังต้องใช้เวลาอีกนาน
ทั้งนี้มูลค่าของบริษัทนิโคลา ซึ่งในหลายครั้งผ่านมาราคาหุ้นของบริษัทมีราคาไม่ถึงหุ้นละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ได้ทรุดต่ำลงเหลือไม่ถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 1,700 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากราคาหุ้นของบริษัทตกต่ำมากถึง -38% ก่อนหน้านี้มูลค่าของบริษัทนิโคลาเคยมีขนาดใหญ่มากถึง 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 918,000 ล้านบาทในปี 2020 ทำให้ในครั้งหนึ่งมูลค่าของบริษัทสตาร์ทอัพรถหัวลากอีวีแห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับตำนานของประเทศสหรัฐอเมริกา
