เอสเต ลอเดอร์ ปลดครั้งใหญ่ 7,000 คน ครวญยอดขายเครื่องสำอางทรุดแรง 6% ตลาดซบเซาในเอเชีย คู่แข่งแบรนด์ใหม่ยึดคนรุ่นใหม่อยู่หมัด

แย่ตามกัน! เอสเต ลอเดอร์ ปลด ครั้งใหญ่ 7,000 คน ครวญยอดขายเครื่องสำอางทรุดแรง 6% ตลาดซบเซาในเอเชีย คู่แข่งแบรนด์ใหม่ยึดคนรุ่นใหม่อยู่หมัด

เอสเต ลอเดอร์ (Estee Lauder) แบรนด์เครื่องสำอางหรูหราระดับตำนานของโลก เปิดเผยว่า เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่ตั้งแต่ 5,800-7,000 คน หรือตั้งแต่ 9% ถึง 11% ของทั้งหมดที่มีอยู่ 62,000 คนทั่วโลก การเปิดพนักงานจะมีขึ้นจนกระทั่งไปสิ้นสุดภายในปีงบประมาณ 2026 ส่งผลจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ระหว่าง 1,200 ถึง 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 40,800-54,400 ล้านบาท

สาเหตุจากแบรนด์เอสเต ลอเดอร์ เผชิญกับยอดขายเครื่องสำอางที่ตกต่ำต่อเนื่องในตลาดขายปลีกของภูมิภาคเอเชีย ความต้องการซื้อหาเครื่องสำอางในตลาดประเทศจีนซบเซาต่อเนื่อง โดยเฉพาะยอดขายตามร้านสาขา และเคาเตอร์ในร้านค้าเครื่องสำอางในสนามบินและแหล่งท่องเที่ยวในเอเชีย เช่น จีน เกาหลีใต้ เป็นต้น นอกจากนี้ เอสเต ลอเดอร์ ต้องไปเผชิญกับแบรนด์เครื่องสำอางใหม่ และแบรนด์บำรุงรักษาผิวรายใหม่ ซึ่งจับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งหมดส่งผลไปถึงนักลงทุนที่ถือหุ้นลงทุนในบริษัทเอสเต ลอเดอร์ ล้วนเทขายหุ้นออกมาอยู่ตลอดเวลา

ด้านผลประกอบการของแบรนด์เครื่องสำอางระดับตำนานหรูหราของโลกดังกล่าวพบว่าในไตรมาสที่สองของบริษัทซึ่งนับสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2024 พบว่า ยอดขายตกต่ำลงถึง 6% มีมูลค่าเหลือเพียง 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 136,000 ล้านบาท ยอดขายที่ตกต่ำดังกล่าวนั้นย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะมียอดขายเหลืออยู่ที่ 3,970 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 134,980 ล้านบาท

ในขณะที่รายได้ต่อหุ้นของเอสเต ลอเดอร์ ในไตรมาสที่ 3 พบว่ามีการปรับปรุงตัวเลขดังกล่าวเป็นระหว่างหุ้นละ 24-34 เซนต์ หรือหุ้นละ 8.16-11.56 บาท ซึ่งน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับราคาคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ไว้ที่ 63 เซนต์ต่อหุ้น หรือหุ้นละ 21.42 บาท

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอของบริษัท เอสเต ลอเดอร์ นางสเตฟานนี เดอ ลา ฟาเวอรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ยอดขายในไตรมาสที่ 3 จะยังคงเผชิญปัญหาต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ในตลาดท่องเที่ยวของทวีปเอเชีย ย้อนกลับไปในเดือนตุลาคมปี 2024 ที่ผ่านมาบริษัทมีความจำเป็นต้องยกเลิกการคาดการณ์ยอดขายและกำไรประจำปี ในขณะที่ได้ประกาศปรับลดอัตราการจ่ายเงินปันผล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายในการปรับปรุงโครงสร้างทางธุรกิจ หลังจากต้องเผชิญกับภาวะยอดขายที่ชะลอตัวต่อเนื่อง

ธุรกิจเครื่องสำอางแบรนด์เอสเต ลอเดอร์ ก่อตั้งโดยสามีภรรยาชื่อโจเซฟ และเอสเตจากตระกูลลอเดอร์ โดยธุรกิจหลักอยู่ภายใต้บริษัทเอสเต ลอเดอร์ คอมพานี อินคอร์ปอเรชั่น หรือ ELC ซึ่งมีบริษัทลูกต่าง ๆ อีกมากมาย เริ่มต้นธุรกิจเครื่องสำอางเล็ก ๆ ในปี 1946 โดยเอสเตเป็นคนคิดสูตรครีมและทำการตลาด ส่วนโจเซฟรับผิดชอบเรื่องการผลิตและการบริหารกิจการ นอกจากนี้ ยังเป็นแบรนด์เครื่องสำอางแรกที่ใช้กลยุทธ์แจกของแถมเมื่อลูกค้าซื้อผลิตภัณฑ์อีกด้วย

ทั้งนี้ แบรนด์เครื่องสำอางหรูหรา เอสเต ลอเดอร์ ได้ดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อบริษัท ELCA ประเทศไทย จำกัด ได้ย้ายสำนักงานมาอยที่ตึกวัน แบงคอก เมื่อไม่นานมานี้ ทำธุรกิจอยู่ในประเทศไทยเข้าสู่ปีที่ 33 โดยมีการขยายแบรนด์รวม 11 แบรนด์ในปัจจุบัน ครอบคลุมทั้งสกินแคร์ เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม และน้ำหอม เช่น La Mer, M.A.C, Bobbi Brown, Tom Ford Beauty, Jo Malone London, Clinique, Aveda, Origins รวมไปถึงแบรนด์น้องใหม่ในช่วงปีที่ผ่านมาอย่าง Le Labo น้ำหอมสุด niche ชื่อดังจากนิวยอร์ค และ Dr.Jart+ เวชสำอางชั้นนำจากเกาหลี

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles