ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2024 ที่ผ่านไป พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 83.36 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.46 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.8% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 88.42 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.42 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.6% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกทั้ง 2 แห่ง ปิดร่วงลง -3.0%และ -4.0% ตามลำดับ
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงต่ำสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ หลังจากดัชนีชี้วัดภาคการผลิตและภาคบริการในสหรัฐลดลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ตรงกันข้ามกับภาวะเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรในเดือนเมษายนขยายตัวดีที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี ไอเอ็มเอฟเปิดเผยว่ากลุ่มโอเปกพลัสอาจจะกลับมาเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนกรกฎาคมนี้
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่า ข้อมูลตัวเลขล่าสุดเป็นที่ชัดเจนว่าไม่ได้ให้ความมั่นใจกับเฟด ในทางตรงกันข้าม กลับดูเหมือนว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่จะได้ความมั่นใจดังกล่าว ดังนั้น ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังคงต้องมีต้นทุนการเงินสูงต่อเนื่อง กระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันดิบ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2022 มีราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ สหรัฐอเมริกา พุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน และในปี 2022 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันสำเร็จรูปขายปลีกในไทยถูกปรับราคาขึ้นครั้งล่าสุดในวันนี้ 18 เมษายน 2567 โดยเฉพาะกลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ ได้แก่ แก๊สโซฮอล์ 95 มีราคาขายลิตรละ 40.35 บาท ส่งผลทำสถิติราคาน้ำมันสูงสุดในรอบเกือบ 7 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2566 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังเป็นการปรับขึ้นน้ำมันในกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์รวม 6 ครั้ง รวมราคาขึ้น +6.53% หรือขึ้นทั้งหมด 2.50 บาทต่อลิตรภายใน 1 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2567 เป็นต้นมา และยังมีราคาเพิ่มสูงขึ้นถึง 5.10 บาท/ลิตร หรือ +14.46% ตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันนี้ 18 เมษายน 2567