นายฉี ชิง–ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ขยายตัวต่อเนื่องเพียงเล็กน้อยจากการบริโภคภายในประเทศและการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี การลงทุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนชะลอลงตามการอนุมัติงบประมาณของภาครัฐที่มีความล่าช้าและการส่งออกที่ฟื้นตัวช้า สำหรับเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งหลังของปีคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกจากการใช้จ่ายของภาครัฐที่มีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น การลงทุนภายในประเทศและการลงทุนจากต่างประเทศที่ขยายตัวดีขึ้น
กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยังคงให้ความสำคัญกับ Sustainable Banking เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) จากการดำเนินงานของธุรกิจธนาคาร รวมถึงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อสิ่งแวดล้อมและการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการปรับตัว สำหรับธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของธนาคารแห่งประเทศไทย และปี 2567 บริษัทได้รับการคัดเลือกให้เป็นบริษัทที่มีการดำเนินงาน โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมมาภิบาล (ESG100) เป็นปีที่ 9 รวมทั้งได้รับการคัดเลือกให้อยู่ใน Universe ของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 โดยสถาบันไทยพัฒน์
โดยผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2567 กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 891 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 25.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรจากการดำเนินงานก่อนผลขาดทุนด้านเครดิต ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและภาษีเงินได้จำนวน 1,990 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 19.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหลักๆ เป็นผลจากเงินปันผลที่ลดลงเนื่องจากกลุ่มธุรกิจทางการเงินยังคงลดพอร์ตการลงทุน
ขณะที่ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ครึ่งแรกของปี 2567 เติบโตได้ดีผ่านการขยายฐานสินเชื่อลูกค้าทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ ทั้งช่องทางดิจิทัลและพันธมิตรทางธุรกิจ ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 846 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นผลจากเงินปันผลที่ลดลง สินเชื่อเติบโตร้อยละ 8.7 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 หลักๆ เป็นการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อธุรกิจและกลุ่มลูกค้าไต้หวัน และสินเชื่อกลุ่มลูกค้าไต้หวันเพิ่มขึ้นร้อยละ 31 ผ่านเครือข่ายของ CTBC Bank ธนาคารเอกชนอันดับ 1 ของไต้หวัน ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มธุรกิจ และ Trade Finance เติบโตร้อยละ 19 ทั้งนี้ ธนาคารคุม NPL ให้อยู่ที่ร้อยละ 3 รวมทั้งได้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญอย่างระมัดระวังโดย NPL Coverage อยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 188 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
ด้านเงินฝาก ธนาคารได้ขยายฐานลูกค้าเงินฝากรายย่อยเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผ่านช่องทาง Digital Banking และออกผลิตภัณฑ์เงินฝากต่างๆ เช่น เงินฝากบัญชีออมทรัพย์ดิจิทัล B-You Wealth ดอกเบี้ยสูงสุด 5.55% แคมเปญผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ดิจิทัล รับฟรี บัตรแรบบิท LH Bank Success Infinite Prestige Collection แคมเปญผลิตภัณฑ์เงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) และผลิตภัณฑ์ LH Bank Health Care Saving รวมถึงบัญชีออมทรัพย์เพื่อธุรกิจอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได
สำหรับ ทิศทางธุรกิจครึ่งหลังของปี 2567 ธนาคารยังคงเน้นขยายตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยและขับเคลื่อน การเติบโตกลุ่มลูกค้า SMEs ธนาคารได้พัฒนาระบบ Corporate E-Banking และ Mobile Banking เพื่อให้บริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการปรับกระบวนการพิจารณาสินเชื่อให้รวดเร็ว และเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน (Sustainable Banking)