แห่ทุบหุ้นรถนิสสันฉุดราคาต่ำสุดใน 10 ปี ดิ่งแรงกว่า 10% ไม่เชื่อมั่นแผนลดต้นทุนครั้งใหญ่ นิสสันถูกจัดเสี่ยงเบี้ยวหนี้สูงอันดับ 4 ในญี่ปุ่น

แห่ทุบหุ้นรถ นิสสัน ฉุดราคาต่ำสุดใน 10 ปี ดิ่งแรงกว่า 10% ไม่เชื่อมั่นแผนลดต้นทุนครั้งใหญ่ นิสสันถูกจัดเสี่ยงเบี้ยวหนี้สูงอันดับ 4 ในญี่ปุ่น

ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น รายงานว่า ราคาหุ้นของบริษัทนิสสันมอเตอร์ประเทศญี่ปุ่นปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2024 ที่ผ่านไป มีราคาลงมาถึงระดับต่ำสุดระหว่างวันอยู่ที่หุ้นละ 368.50 เยน หรือกว่าหุ้นละ 82.18 บาท ส่งผลมีราคาตกต่ำถึง 41.50 เยน หรือกว่า 9.25 บาทต่อหุ้น หรือร่วงมากถึง -10.1% เมื่อเทียบจากราคาก่อนหน้านี้ที่เคยอยู่ที่หุ้นละ 410 เยน หรือกว่า 91.50 บาทต่อหุ้น ราคา หุ้นของบริษัทนิสสันที่ตกต่ำอย่างรุนแรงดังกล่าวจึงทำสถิติราคาต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2020 หรือต่ำสุดในรอบ 4 ปี 1 เดือนผ่านมา

สาเหตุที่นักลงทุนแห่เทขายหุ้นนิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น อย่างหนาตาเมื่อวานนี้เป็นผลมาจากการขาดความเชื่อถือในแนวโน้มของแผนการแก้ไขสถานการณ์ตลาดรถยนต์นิสสัน รวมถึงคณะกรรมการบริษัทนิสสัน มอเตอร์ประเทศญี่ปุ่น ได้แถลงการณ์ออกมาว่าเนื่องจากบริษัทนิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น มีการปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ด้านการเงินในปีงบประมาณปัจจุบัน ส่งผลให้คณะกรรมการของบริษัทฯ มีมติยกเลิกการจ่ายเงินปันผลระหว่างการ นอกจากนี้ยังยกเลิกการคาดการณ์มุมมองเงินปันผลในช่วงสิ้นปีนี้

ด้านบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือในการลงทุน หรือเรตติ้ง ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ได้แก่ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส, ฟิทช์ เรตติ้ง และ เอสแอนด์พี ล้วนปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้นิสสันมาอยู่ในระดับต่ำสุด หรือ Junk Bond หรือระดับขยะ นั่นหมายถึงการลงทุนมีความเสี่ยงสูงมาก อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือสัญชาติญี่ปุ่นยังคงให้อันดับการลงทุนของนิสสัน มอเตอร์ สูงถึงระดับ A ซึ่งเป็นอันดับที่ 6 จากระดับเต็มเพดาน

นอกจากนี้ บลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ ซึ่งเป็นสำนักวิจัยในเครือสำนักข่าวบลูมเบิร์ดชื่อดังระดับโลก เปิดเผยว่า บริษัทนิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น เป็นบริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่มีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้สูงเป็นอันดับ 4 ในประเทศญี่ปุ่น สาเหตุจากบริษัทมีกำไรดำดิ่งอย่างรุนแรงถึง -93%% ในครึ่งปีแรกของปีงบประมาณปัจจุบัน นอกจากนี้สถานะการเงินของนิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการประกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของพันธบัตร กลับพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในเมื่อวานนี้ สำหรับค่าใช้จ่ายในการประกันดังกล่าว หมายถึงค่าเบี้ยประกันที่นักลงทุนต้องจ่ายเพิ่มเพื่อป้องกันความเสี่ยง ในกรณีหากนิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น ไม่สามารถชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ หรือนักลงทุนตามที่ตกลงไว้ ที่น่าเป็นกังวลมากขึ้น คือ ค่าใช้จ่ายในการประกันดังกล่าวพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน และยังสูงกว่าบริษัทญี่ปุ่น เช่น ชาร์ป คอร์ปอเรชั่น เป็นต้น

บริษัทหลักทรัพย์ มิซูโฮ Mizuho Securities) ในญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทนิสสัน มอเตอร์ จากเดิมในระดับคงที่ ลงมาอยู่ที่ระดับติดลบเล็ก เนื่องจากการคาดการณ์พบว่าผลกำไรของนิสสันจะลดลงตั้งแต่ปีงบประมาณปัจจุบันไปจนถึงช่วงสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2026 เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในตลาดรถยนต์สหรัฐที่ชะลอตัวลง และค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างธุรกิจสูงมาก

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2024 ผ่านมา นิสสัน มอเตอร์ (Nissan) ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นค่ายผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ชื่อดังระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่าเตรียมตัดลดค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ผ่าน 3 มาตรการสำคัญได้แก่ ดำเนินการปลดพนักงานครั้งใหญ่จำนวน 9,000 คน ปรับลดกำลังการผลิตรถยนต์ลงมากถึง 20% จากกำลังการผลิตในปัจจุบัน และขายหุ้นในสัดส่วน 10% ที่นิสสัน มอเตอร์ ถืออยู่ในค่ายรถยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ ที่ 34% คืนกลับให้ขายรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์

นอกจากนี้ฝ่ายบริหารระดับสูงของบริษัทมอเตอร์ได้ปรับลดมุมมอง รายได้จากการดำเนินงานทั้งปีงบประมาณปัจจุบันที่จะสิ้นสุดเดือนมีนาคมปี 2025 จากเดิม 500,000 ล้านเยน หรือกว่า 111,500 ล้านบาท ลงมาเหลือเพียง 150,000 ล้านเยน หรือกว่า 33,450 ล้านบาท หรือปรับลดลงมากถึง 70% จากเป้าหมายเดิม สอดรับกับการปรับลดมุมมองผลกำไรจากการดำเนินงานในช่วงระยะเวลาเดียวกันจากเดิมที่ 600,000 ล้านเยน หรือ 133,800 ล้านบาท เหลือที่ 500,000 ล้านเยน หรือ 111,500 ล้านบาท

สาเหตุจาก แบรนด์รถยนต์นิสสันต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงและเข้มข้นตลอดเวลาทั้งจากแบรนด์รถยนต์ในเอเชียโดยเฉพาะจีน เช่น บีวายดี และแบรนด์รถยนต์จากสหรัฐอเมริกา เช่น เทสลา ซึ่งการตัดสินใจตัดลดค่าใช้จ่ายดังกล่าวนั้น นับเป็นความท้าทายและความพยายามครั้งล่าสุดของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO นิสสัน มอเตอร์ ชื่อว่า นายมาโกโตะ ยูชิดะ ที่ได้ประกาศไว้ว่าจะปรับปรุงความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ท่ากลางยอดขายรถยนต์ของแบรนด์นิสสันชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง

ด้านผลประกอบการของนิสสัน มอเตอร์ในไตรมาสล่าสุด ซึ่งสิ้นสุดเดือนกันยายนผ่านมา พบว่า สามารถทำกำไรสุทธิที่ 32,000 ล้านเยน หรือกว่า 7,136 ล้านบาท ซึ่งผลกำไรดังกล่าวนั้นพลาดเป้าจากที่คาดการณ์ไว้ว่าจะต้องมีกำไรสูงถึง 65,000 ล้านเยน หรือกว่า 14,495 ล้านบาท หรือพลาดเป้าถึง 51% จากเป้าหมายที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ เมื่อต้นปีนี้ที่ผ่านมา นิสสัน มอเตอร์ ได้ประกาศปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในปี 2024 จากเดิมที่ 3.7 ล้านคัน ลดลง 50,000 คัน มาอยู่ที่ 3.65 ล้านคัน ท่ามกลางยอดขายรถยนต์นิสสันทั่วโลกในระหว่างเดือนเมษายนถึงกันยายนผ่านไปนั้น ทำได้ที่ 1.6 ล้านคัน ลดลง 4%

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles