ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ยักษ์ใหญ่ธนาคารพาณิชย์ชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าได้คาดการณ์ในกรณีที่สุดขั้ว ซึ่งความเป็นไปได้ หรือโอกาสจะเกิดขึ้นนั้นอาจมีน้อยมาก ว่าราคาทองคำในตลาดโลกอาจเพิ่มสูงขึ้นและทะยานขึ้นไปเกินกว่าระดับ 4,500 ดอลลาร์สหรัฐภายใน 12 เดือนข้างหน้าจากนี้ไป สาเหตุจากการคาดการณ์หรือความไม่แน่นอนสูงของการใช้ดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐในอนาคตเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่ได้รับแรงกดดันจากนโยบายเศรษฐกิจการค้าที่นำไปสู่สงครามภาษีการค้าทั่วโลก ความต้องซื้อทองคำของธนาคารกลางสหรัฐที่อาจเพิ่มสูงขึ้นถึงเดือนละ 110 ตันในอนาคต นอกจากนี้ หากภายในสิ้นปี 2025 นี้ การลงทุนในหน่วยลงทุนทองคำ หรือโกลด์อีทีเอฟอาจเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องจนอาจมีปริมาณสูงเหมือนในช่วงวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19
ขณะที่ในคืนผ่านมา ซึ่งสิ้นสุดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ พบว่าราคาทองคำตลาดโลกทะยานถึง 18% ทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ถึง 19 ครั้ง ส่งผลมีราคาทองคำที่ดีที่สุดในรอบ 39 ปี หรือตั้งแต่กันยายนปี 1986 ในปี 2024 ผ่านไป ราคาทองคำพุ่งทะยาน 27% ทำสถิติราคาทองคำที่ดีที่สุดในรอบ 14 ปี
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27 มีนาคมผ่านมา ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับขึ้นราคาเป้าหมายทองคำโลกในสิ้นปี 2025 เป็น 3,300 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือเพิ่มขึ้นอีก 200 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ จากเดิมที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2024 ที่ระดับ 3,100 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นอกจากนี้ ยังได้ปรับเพิ่มช่วงราคาทองคำโลกในปี 2025 เป็นระหว่าง 3,250-3,520 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ จากเดิมที่มองระหว่าง 3,100-3,300 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 4.83% ถึง 6.66%
สาเหตุจากความต้องการซื้อทองคำของธนาคารกลางขนาดใหญ่ในทวีปเอเชียจะมีเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 3-6 ปีข้างหน้า เพื่อเป้าหมายในการรักษาระดับ หรือสัดส่วนทองคำสำรองในทุนสำรองระหว่างประเทศของแต่ละธนาคารกลาง สะท้อนจากความต้องการซื้อทองคำของธนาคารทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจากเดือนละ 50 ตัน เป็น 70 ตัน นอกจากนี้ ปัจจัยความไม่แน่นอนในนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา รวมถึงมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะเพิ่มความต้องการซื้อทองคำในอีก 3-6 ปีจากนี้ไป
นอกจากนี้ ต้องการลงทุนในหน่วยลงทุนทองคำ หรือโกลด์อีทีเอฟ จะเพิ่มสูงมากขึ้นซึ่งเป็นผลจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 2 ครั้งๆ ละ 0.25% ภายในปี 2025 และในครึ่งแรกของปี 2026 ธนาคารกลางสหรัฐจะลดดอกเบี้ยลงอีก 1 ครั้ง
ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยต่อไปว่ายังมีปัจจัยบวก 2 อย่างที่จะหนุนส่งราคาทองคำตลาดโลกไปแตะระดับ 3,410 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ขึ้นอยู่กับธนาคารกลางสหรัฐจะลดดอกเบี้ยเพื่อป้องกันภาวะเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยในปี 2025 ส่วนปัจจัยที่ 2 คือ ความต้องการซื้อทองคำมาปิดความเสี่ยง ส่งผลให้การถือครองหน่วยลงทุนทองคำ หรือโกลด์อีทีเอฟจะเพิ่มสูงมากไปถึงระดับช่วงเกิดวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 หนุนให้ราคาทองคำไปถึงระดับ 3,680 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2024 นายดานน์ สตรูเว่น นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ยักษ์ใหญ่ธนาคารพาณิชย์ชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ภายในสิ้นปี 2025 ราคาทองคำตลาดโลกจะอยู่ที่ระดับ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ สาเหตุจากได้ปรับขึ้นราคาทองคำโลกในช่วงต้นปี 2025
ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ยักษ์ใหญ่ธนาคารพาณิชย์ชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ได้ปรับขึ้นราคาทองคำโลกในช่วงต้นปี 2025 จากเดิมที่ระดับ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ มาเป็น 2,900 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 200 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
สาเหตุจากความต้องการซื้อทองคำเข้าสะสมในทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางสำคัญทั่วโลกและการปรับลดลงดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาในช่วงที่เหลือของปีนี้ และต่อเนื่องจนถึงกลางปี 2026
ในแง่ผลตอบแทน พบว่า ราคาทองคำจบไตรมาสที่ 3 ปีนี้ พุ่งขึ้น +13% ทำสถิติราคาทองคำรายไตรมาสที่ดีที่สุดในรอบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2020 ขณะที่ราคาทองคำโลกพุ่งทะยานกว่า 28% นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงสิ้นสุดไตรมาสที่ 3 ผ่านไป นอกจากนี้ ราคาทองคำปีนี้มีแนวโน้มสูงที่จะให้ผลตอบแทนรายปีที่ดีที่สุดในรอบ 14 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา
ย้อนกลับไปเมื่อ 13 เมษายนผ่านมา ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ยักษ์ใหญ่ธนาคารพาณิชย์ชื่อดังระดับโลกในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ได้ปรับขึ้นราคาทองคำโลกสิ้นปีนี้จากเดิมที่ระดับ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ มาเป็น 2,700 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 400 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
ทั้งนี้ เมื่อ 16 มีนาคม 2024 ผ่านมา ธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับขึ้นราคาเฉลี่ยทองคำโลกปีนี้จากเดิมที่ระดับ 2,190 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ มาเป็น 2,080 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นอกจากนี้ ยังมองราคาทองคำโลกช่วงสิ้นปี 2024 ที่ระดับ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
