นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า การคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติได้ปรับเงื่อนไขกองทุนรวมกองทุน Thai ESG ไปแล้ววานนี้ 30 ก.ค. 2567 เชื่อว่าช่วยให้มีเม็ดเงินใหม่เข้ามาในตลาดหุ้นไทย แต่เงินลงทุนจะไม่ได้เข้ามาทันที เพราะเป็นกองทุนที่นักลงทุนเลือกซื้อเพื่อวัตถุประสงค์ประหยัดภาษี ดังนั้นจังหวะการเข้าซื้อหลักของนักลงทุนน่าจะเป็นช่วงปลายปี
อย่างไรก็ดีถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ภาครัฐบาลพยายามสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุน รวมถึงหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนทั้ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กำลังเร่งสร้างความเชื่อมั่นตลาดทุนอยู่
ซึ่งหากทำได้ย่อมสนับสนุนเม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้ามา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ฟื้นตัวในระดับที่นักลงทุนคาดหวัง โครงการต่างๆ ของภาครัฐบาลยังขับเคลื่อนออกมาได้ช้า
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ยังมีผลต่อตลาดหุ้นไทยคือ การเมืองซึ่งต้องติดตามว่า วันที่ 14 ส.ค. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน จะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทยต่อไปหรือไม่ ตามความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญที่นัดได้ขาดคุณสมบัติในวันดังกล่าว โดยเชื่อความกังวลจะกดดันบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นให้ซึมไปจนถึงวันใกล้ตัดสิน เว้นแต่จะมีข่าวหลุดออกมาก่อนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
สำหรับการลงทุนหุ้นไทยยังน่าสนใจเป็นรายตัวเนื่องจาก มีหลายบริษัทซื้อขายกันที่ระดับราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน อีกทั้งไม่ได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงเศรษฐกิจในประเทศมากนัก เช่นหุ้นกลุ่มการแพทย์ อาหาร เป็นต้น และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในภาพรวมมีทิศทางที่ดีขึ้นบ้าง และคาดหวังว่าจะดีขึ้นชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง 2567