นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบธุรกิจว่ามีมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ดำเนินการอัปเดทข้อมูลนิติบุคคลผ่านช่องทางออนไลน์และสื่อสังคมออนไลน์ (โซเชียลมีเดีย) โดยมาทั้งในรูปแบบการโทรศัพท์และส่งเป็นหนังสือราชการ (ปลอม) ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อให้ผู้ประกอบการเร่งดำเนินการอัปเดทข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน โดยอ้างชื่อและโลโก้กรมฯ ทำให้ดูน่าเชื่อถือ รวมถึง การปลอมแปลงหน้าเว็บไซต์ให้มีรูปแบบคล้ายกับหน้าเว็บไซต์กรมฯ ที่ผ่านมากรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มีการแจ้งเตือนภัยอย่างต่อเนื่องให้ระวังการให้ข้อมูลหรือคลิกลิงก์ที่ไม่มีแหล่งที่มาที่ชัดเจน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ล่าสุด มิจฉาชีพได้มีการพัฒนากลโกงไปอีกขั้นเพื่อให้มีความแนบเนียนมากยิ่งขึ้น โดยแอบอ้างว่ากรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้จัดตั้ง ‘กองทะเบียนธุรกิจออนไลน์’ ขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการยืนยันตัวตนของนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน โดยอ้างเหตุผลเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลธุรกิจ ปรับปรุงรายชื่อนิติบุคคลที่ไม่ได้ประกอบกิจการโดยอ้างว่าจะลบชื่อนิติบุคคลนั้นออกจากระบบหากไม่อัปเดทข้อมูลโดยด่วน รวมทั้งอ้างว่าเพื่อแก้ปัญหานิติบุคคลเป็นนอมินีให้นักลงทุนชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นการประกอบธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจเกิดความหวาดกลัวและหลงเชื่อดำเนินการคลิกลิ้งค์ เพื่ออัปเดทข้อมูลนิติบุคคลหรือข้อมูลส่วนบุคคลตามกลโกงของมิจฉาชีพ นอกจากนี้ มิจฉาชีพยังได้อ้างข้อกฎหมายที่มีบทลงโทษหนัก เพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนเกิดความหวาดกลัว และทำตามที่มิจฉาชีพหลอก รู้ตัวอีกที เงินที่มีอยู่ในบัญชีถูกโอนออกไปจนหมด ทำให้ทั้งภาคธุรกิจและประชาชนได้รับความเสียหายเป็นอันมาก
อธิบดีฯ กล่าวต่อว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอย้ำกับภาคธุรกิจและประชาชนอีกครั้งว่า กรมฯ ไม่มีนโยบายทักหาภาคธุรกิจและประชาชนก่อน โดยเฉพาะผ่านช่องทางออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย โดยที่ประชาชนท่านนั้นไม่ได้สอบถามข้อมูลมา จึงขอเตือนให้ภาคธุรกิจและประชาชนพึงระวังหากได้รับการติดต่อจากบุคคลในลักษณะดังกล่าว อย่าหลงเชื่อหรือกดดาวน์โหลดไฟล์เอกสารหรือคลิกลิ้งก์ที่แนบมา เนื่องจากเป็นการกระทำของมิจฉาชีพ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าขอให้ภาคธุรกิจและประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการให้ข้อมูลและการคลิกลิงก์หรือดาวน์โหลดเอกสารใดๆ ที่แนบมากับข้อความผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ และขอย้ำดังๆ อีกครั้งว่ากรมพัฒนาธุรกิจการค้าไม่เคยมีการจัดตั้ง ‘กองทะเบียนธุรกิจออนไลน์’ และไม่มีนโยบายทักหาภาคธุรกิจและประชาชนก่อน โดยเฉพาะผ่านทางอีเมล์ โทรศัพท์ และช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้อัปเดทข้อมูลธุรกิจ หรือขอข้อมูลส่วนบุคคล หากได้รับการติดต่อไปในลักษณะนี้ให้สงสัยว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ พึงระวังให้มากที่สุด เพื่อมิให้เกิดความเสียหายจากการหลอกลวงนี้ หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดตามภารกิจด้านต่างๆ ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ติดต่อได้ที่ สายด่วน 1570 เว็บไซต์ www.dbd.go.th และ FB: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า DBD” อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย
