ออสเตรเลียน บรอดคาสท์ติ้ง คอร์ป หรือเอบีซี ซึ่งเป็นสำนักข่าวและสื่อชื่อดังระดับประเทศและระดับโลกของประเทศออสเตรเลีย รายงานว่าเมื่อเวลา 18.30 น. ตามเวลาในออสเตรเลีย หรือตรงกับเวลา 14.30 น. ตามเวลาในประเทศไทยเกิดเหตุเศร้าสลดกราดยิงบนชายหาดมีชื่อว่าบอลได บีช (Bondi Beach) ซึ่งอยู่ในเมืองซิดนีย์ เหตุการณ์ไม่คาดฝันดังกล่าวเกิดขึ้นโดยมีมือปืนใช้อาวุธปืนกราดยิงประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศที่กำลังพักผ่อนอยู่บนชายหาดดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10 ราย และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 10 ราย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำชายหาดได้นำผู้บาดเจ็บจำนวนมากส่งโรงพยาบาลที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน
นายแอนโทนี อัลบานีส นายกรัฐมนตรี ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า นับเป็นเหตุการณ์ที่ช็อค และเศร้าสลดอย่างมากของประเทศออสเตรเลีย ขอแสดงความเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันในครั้งนี้ ได้ประสานงานพูดคุยกับผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐดังกล่าว เพื่อเร่งหาข้อเท็จจริงของเหตุโศกนาฏกรรมในครั้งนี้
ขณะที่ประธานาธิบดีประเทศอิสราเอล นายไอแซค เฮอร์ซ็อก เปิดเผยว่าได้รับการยืนยันว่ามีชาวอิสราเอลได้รับบาดเจ็บจากการที่เข้าร่วมงานฉลองเทศกาลฮานูก้า (Hanukkah) บนชายหาดบอนได บีช ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุกราดยิงนั้น ขณะที่นายอเล็กซ์ ไรชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของสภาบริหารชาวยิวในประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่า เหตุกราดยิงเกิดขึ้นในงานฉลองเทศกาลฮานูก้า (Hanukkah) บนชายหาดบอนได บีช
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองซิดนีย์ ซึ่งเข้าควบคุมที่เกิดเหตุดังกล่าว เปิดเผยว่า สามารถจับกลุ่มและควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 2 ราย โดย 1 ใน 2 รายได้รับบาดเจ็บจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเข้าใส่มือปืนชาย ต่อมาไม่นานนักมือปืนที่ได้รับบาดเจ็บคนดังกล่าวได้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนสอบสวนผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 รายให้มีความชัดเจนกับเหตุการณ์โสกนาฏกรรมในครั้งนี้ซึ่งถือว่าเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 11 ปี หรือในปี 2014 ได้เกิดเหตุการณ์ชาย 1 ราย จับตัวประกันจำนวน 18 คนในร้านอาหารชื่อว่าลินดท์ คาเฟ่ ในเมืองซิดนีย์ เหตุการณ์ครั้งนั้นผู้ก่อเหตุจับตัวประกันไว้เป็นเวลานานถึง 6 ชั่วโมงกระทั่งในที่สุดผู้ก่อเหตุและตัวประกันจำนวนสองรายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ