นางสาวชนาภรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานอาวุโส กลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท กล่าวว่า บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ภายในประเทศไทยมีเวลาอีกอย่างน้อย 4 ปีในการปรับรูปแบบธุรกิจเข้าหาการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยานยนต์เดิมไปสู่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรืออีวีโดยเฉพาะแบรนด์รถอีวีจากประเทศจีน หลังจากในช่วงที่ผ่านมาพบว่า บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ได้รับคำเตือนมาก่อนว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ในไทยกำลังได้รับผลกระทบจากการเข้ามาของรถอีวีจีน ซึ่งมีผลกระทบต่อธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในไทย และในขณะนี้มีบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่ไม่สามารถได้รับคำสั่งซื้อการผลิตชิ้นส่วนจากค่ายรถอีวีจีนในประเทศไทย ในเวลาเดียวกัน บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่อยู่ในประเทศประเทศไทยมาเป็นเวลาช้านานก็ต้องเผชิญกับ การตัดสินใจลดกำลังการผลิต หรือปิดโรงงานผลิตรถยนต์
รองประธานอาวุโส กลุ่มบริษัทไทยซัมมิท นางสาวชนาภรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวต่อไปว่า กลุ่มบริษัทไทยซัมมิทสามารถตกลงและทำสัญญาทำธุรกิจรับคำสั่งซื้อผลิตชิ้นส่วนรถอีวีจากแบรนด์ค่ายรถอีวีจีนชื่อดัง เช่น บีวายดี และฉางอัน ออโตโมบิล ในประเทศไทย ด้วยการที่กลุ่มบริษัทไทยซัมมิทมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์อยู่ในต่างประเทศถึง 7 แห่ง รวมถึงมีโรงงานอยู่ในประเทศจีนด้วยนั้น จึงไม่เป็นการยากเกินไปที่จะได้ธุรกิจจากค่ายรถยนต์สัญชาติจีน ซึ่งกลุ่มบริษัทไทยซัมมิทก็มีความสัมพันธ์ที่ดีมาก่อนหน้านี้ด้วย
ผู้ผลิตรถอีวีสัญชาติจีนอาจจะเป็นไปได้ที่จะนำบริษัทผลิตชิ้นส่วนจากประเทศจีน เข้ามาในประเทศไทย แต่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับการผลิตรถรุ่นแรกๆ สำหรับตลาดในเมืองไทย ดังนั้น บริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศจะมีเวลาอย่างน้อย 4 ปี หรือมากที่สุดไม่เกิน 8 ปีจากนี้ไปในการเตรียมตัวปรับรูปแบบธุรกิจ