วันนี้ 5 มิถุนายน 2025 เมื่อเวลา 04.00 น. ตามเวลาไทย หรือตรงกับวันที่ 4 มิถุนายน 2025 เวลา 13.00 น. ตามเวลาเมืองอาดัคบนเกาะอาดัค รัฐอลาสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา กองกำลังตรวจการชายฝั่งมหาสมุทรแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ U.S. Coast Guard รายงานว่า เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ลุกลามเป็นวงกว้างบนเรือเดินมหาสมุทรที่ใช้ขนส่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวี จำนวนกว่า 800 คันได้รับความเสียหายทั้งหมดอย่างสิ้นเชิงจากจำนวนรถยนต์ทั้งหมด 3,000 คัน กองกำลังตรวจการชายฝั่งมหาสมุทรแห่งสหรัฐอเมริกา ได้อพยพเจ้าหน้าทุกคนบนเรือรวม 22 คนออกจากเรือเดินมหาสมุทรอย่างปลอดภัย
เรือลำดังกล่าวมีชื่อว่า มอร์นิ่ง ไมดาส เกิดเหตุไฟไหม้ลุกลามใหญ่ภายในเรือที่มีการจอดรถอีวีจำนวนมากถึง 800 คันเป็นแถวยาว และรถยนต์ที่ใช้เครื่องสันดาปอีกจำนวนหนึ่ง รวมกันทั้งหมด 3,000 คัน เรือลำดังกล่าวเกิดเหตุอยู่ห่างจากเกาะอาดัค ของรัฐอลาสก้า เป็นระยะทาง 300 ไมล์ โดยออกเดินทางจากท่าเรือหย่านไต่ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2025 แวะ 2 ท่าเรือใหญ่มีชื่อว่า หน่านชา และเซี่ยงไฮ้ ก่อนออกเดินทางต่อเพื่อมุ่งหน้าบนมหาสมุทรแปซิฟิกไปยังประเทศเม็กซิโก เรือลำนี้มีน้ำหนัก 48,000 ตัน สร้างขึ้นในปี 2006 หรือเมื่อ 19 ปีผ่านมา โดยบริษัทเซี่ยะเหมิน ชิปบิ้วล์ดิ้ง อินดัสตรี ที่ประเทศจีน
โซเดียค มาริไทม์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรือลำดังกล่าว เปิดเผยว่า ลูกเรือและเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินประจำเรือได้ปฏิบัติตามขั้นตอนในการเข้าระงับเหตุการณ์ไฟไหม้ แต่ปรากฏว่าไม่สามารถที่จะควบคุมเพลิงซึ่งโหมลุกลามเป็นวงกว้างได้ อย่างไรก็ตาม ได้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเจ้าของ รวมถึงยี่ห้อของรถอีวี ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้บนเรือลำดังกล่าว
อลิอันซ์ ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจประกันภัย เปิดเผยรายงานว่า ความต้องการแบตเตอรี่ลิเที่ยมรวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือรถอีวี ได้นำไปสู่ความเสี่ยงครั้งสำคัญและครั้งใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางเรือเดินมหาสมุทรทั่วโลก โดยเฉพาะเมื่อประเมินจากมูลค่าของจำนวนฝูงรถอีวีที่อยู่บนเรือขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ท่ามกลางการขนส่งรถอีวีซึ่งมีแบตเตอรี่ลิเที่ยมเป็นจำนวนมากกมายหลายพันคัน โดยเป็นที่ทราบกันดีว่า หากเกิดอุบัติเหตุจุดประกายไฟ และลุกลามขึ้นเป็นเพลิงไหม้ จะไม่สามารถดับหรือควบคุมเพลิงได้เลย
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้า โดยเฉพาะรถยนต์ที่เป็นเครื่องยนต์สันดาป และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือรถอีวี เปิดเผยต่อไปว่าระบบการระบาย หรือหมุนเวียนอากาศบนเรือเดินมหาสมุทรที่ใช้ขนส่งสินค้าประเภทรถยนต์มีข้อจำกัด ในขณะที่จำนวนของรถอีวีที่ทำการขนส่งมีจำนวนมากมาย และจำเป็นจะต้องจอดเรียงใกล้เคียงกันตามขนาดของพื้นที่เรือ ทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุจุดประกายไฟ หรือกลายเป็นเพลิงไหม้ที่มีอุณหภูมิสูงมาก ที่สำคัญ ลักษณะการเกิดเปลวไฟจะเป็นแบบเกลียวไฟหมุนอย่างรวดเร็ว ที่เรียกว่า Thermal Runaway ทำให้เกิดความยากลำบากมากและมีโอกาสน้อยที่จะดับเพลิงให้สงบลงได้
ทั้งนี้รถอีวีที่เกิดเพลิงไหม้ จะต้องใช้น้ำไม่ต่ำกว่า 8000 แกลลอน หรือราว 30,300 ลิตร ในการลดความร้อนของแบตเตอรี่ลิเทียมให้มีอุณหภูมิลดลง ซึ่งไม่เกี่ยวกับการดับเพลิงไหม้ที่กำลังคลอกตัวรถอีวีทั้งคัน ดังนั้น จึงกลายเป็นปัญหาความกังวลอย่างชัดเจนสำหรับการขนส่งรถอีวีบนเรือเดินมหาสมุทรขนาดใหญ่ ผลกระทบจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจะมีทั้งผู้ผลิตรถอีวี บริษัทเจ้าของเรือเดินมหาสมุทร และบริษัทประกันภัย
