นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วว่า เป็นไปตามความเชื่อมั่นของตลาดที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีเงินทุนไหลเข้ามาจากต่างประเทศมากขึ้น โดยการปรับขึ้น ลงของบาท ไม่เป็นเรื่องน่ากังวล เชื่อว่าคงจะอยู่ในระดับสมดุลได้ ส่วนความกังวลที่จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกนั้น นายพิชัย ระบุว่า ประเทศไทยคงจะต้องผลิตสินค้าให้เป็นไปตามความต้องการตลาดโลกมากขึ้น
นายพิชัย กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันด้วยว่า มีการแบ่งขั้วอย่างชัดเจน มีการย้ายฐานผลิตระหว่างประเทศมากขึ้น ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้ อาจเป็นโอกาสที่ดีของประเทศที่ไม่แบ่งขั้วชัดเจน อย่างเช่นประเทศไทย รวมทั้งด้วยจุดแข็งจากทำเลที่ตั้งของประเทศไทย ที่เชื่อมโยงด้วยกลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งน่าจะเพิ่มโอกาสที่ดีในด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศของไทย
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติที่ต้องการขยายการลงทุนไปหลายประเทศย่อมต้องการการลงทุนในประเทศที่มีทำเลที่ตั้งเหมาะสม มีความสะดวกสบายในการประกอบธุรกิจ (ease of doing business) และบุคลากรที่มีทักษะสูง ซึ่งประเทศไทยจะต้องเตรียมพร้อมในด้านต่างๆ ควบคู่ไปกับการรองรับการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ซึ่งการเริ่มเตรียมความพร้อมการลงทุนในวันนี้ อาจยังไม่สามารถเห็นผลได้ทันทีในระยะอันใกล้ แต่จะเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงในระยะยาวให้กับประเทศได้ในอนาคต ดังนั้นจึงมองว่าศักยภาพของประเทศไทยสามารถปรับเปลี่ยนและพัฒนาได้