สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยในวันนี้ (12 มิ.ย.) ว่า ปริมาณการผลิต น้ำมัน ทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งนำโดยสหรัฐ คาดว่าจะแซงหน้าการเติบโตของอุปสงค์ไปจนถึงปลายทศวรรษนี้ ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันสำรองแตะระดับสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจัดการตลาดของ OPEC+
โดยการคาดการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุให้นายฟาตีห์ ไบรอล ผู้อำนวยการบริหารของ IEA ได้ออกมาเตือนบรรดาบริษัทน้ำมันรายใหญ่อย่างจริงจัง พร้อมแนะให้บริษัทเหล่านี้เร่งปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ในรายงานแนวโน้มการตลาดระยะกลางที่มีชื่อว่า Oil 2024 ทาง IEA ระบุว่า การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันกำลังชะลอตัวลงก่อนที่จะแตะระดับสูงสุดที่ประมาณ 106 ล้านบาร์เรล/วันภายในปี 2573 ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับของปี 2566 ที่ 102 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ IEA คาดการณ์ว่ากำลังการผลิตน้ำมันจะเพิ่มขึ้นแตะระดับเกือบ 114 ล้านบาร์เรล/วันภายในปี 2573 ซึ่งสูงกว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกที่คาดการณ์ไว้ที่ 8 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งสิ่งนี้จะส่งผลให้กำลังการผลิตสำรองแตะระดับสูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกเหนือจากระดับสูงสุดเมื่อปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่หลายประเทศดำเนินมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19
ทั้งนี้ รายงานฉบับดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ประเทศต่าง ๆ พยายามเปลี่ยนผ่านจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ด้วยการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสะอาดและประหยัดพลังงาน เนื่องจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้วิกฤตสภาพภูมิอากาศ