กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เปิดเผยรายงานมุมมองภาวะเศรษฐกิจโลก 2025 หรือ Global Economic Outlook 2025, October 2025 ประจำเดือนตุลาคม 2025 พบว่า ได้ปรับลดการคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีปี 2026 ของประเทศไทยลดลง 0.1% จากเดิมที่เคยประเมินคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะเติบโตที่ระดับ 1.7% ลงมาเหลือที่ 1.6% อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟ ยังไม่เปลี่ยนแปลงมุมมองคาดการณ์อัตราการขยายตัว หรือจีดีพีเศรษฐกิจประเทศไทยในปี 2025 นี้ ที่ระดับ 2.0% ต่อเนื่องจากเมื่อเดือนกรกฎาคม 2025 ที่ผ่านมา
เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขคาดการณ์การขยายตัว หรือจีดีพีเศรษฐกิจของทั้ง 9 ประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียนในปี 2025 ที่ถูกจับให้อยู่กลุ่มประเทศเกิดใหม่และกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมประเทศสิงคโปร์ ซึ่งถูกจัดให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว) ตามรายงานล่าสุดดังกล่าวของไอเอ็มเอฟ พบว่าเศรษฐกิจประเทศไทยในปี 2026 จะมีอัตราการขยายตัวต่ำที่สุด หรือรั้งสุดท้ายในทั้ง 9 ประเทศอาเซียน เรียงตามลำดับประเทศที่มีการเติบโตมากสุดไปถึงน้อยสุด ดังนี้
อันดับ 1.ฟิลิปปินส์ 5.7% อันดับ 2.เวียดนาม 5.6% อันดับ 3.อินโดนีเซีย 4.9% อันดับ 4.มาเลเซีย 4.0% อันดับ 5.กัมพูชา 4.0% อันดับ 6.เมียนมาร์ 3.0% อันดับ 7.สปป.ลาว 2.5% อันดับ 8.บรูไน 2.4% และอันดับสุดท้าย หรืออันดับ 9.ประเทศไทย 1.6% และนั่นอาจหมายความว่า ประเทศไทยอาจมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รั้งท้ายสุดของกลุ่มอาเซียนนับเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ เศรษฐกิจประเทศไทยที่ถูกคาดการณ์ว่าจะมีจีดีพีเพียง 1.6% ส่งผลให้ไทยขยายตัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ยการขยายตัวเศรษฐกิจทั้ง 9 ประเทศอาเซียนในปี 2026 ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 4.3% สอดรับกับเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ยการขยายตัวเศรษฐกิจของประเทศเกิดใหม่ และประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียแปซิฟิกอีกด้วย เนื่องจากไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่าในปี 2026 เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ 14 ชาติในประเทศเกิดใหม่ และประเทศกำลังพัฒนาจะเติบโตเฉลี่ยทั้งกลุ่มที่ 4.7% แต่เศรษฐกิจไทยถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตแค่ 1.6%
ที่สำคัญ เศรษฐกิจประเทศไทยที่ถูกประเมินว่าจะเติบโตเพียง 1.6% ในปี 2026 จะส่งผลให้ไทยมีอัตราการขยายตัวที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของเอเชียที่ไอเอ็มเอสประเมินว่าในปีหน้าจะเติบโตทั้งทวีปเอเชียที่ระดับ 4.1% ด้วย
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวของไอเอ็มเอฟยังเปิดเผยการคาดการณ์ขนาดเศรษฐกิจของทั้ง 6 ประเทศชั้นนำในอาเซียนระหว่างปี 2026 ถึง 2030 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะภายในปี 2030 ปรากฏว่า ในปีดังกล่าวการคาดการณ์ขนาดเศรษฐกิจของทั้ง 6 ประเทศ มีดังนี้ อันดับ 1.อินโดนีเซีย 2.07 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 2.ฟิลิปปินส์ 746,498 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 3.สิงคโปร์ 721,319 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 4.เวียดนาม 666,786 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 5.ไทย 654,084 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอันดับ 6.มาเลเซีย 646,456 ล้านดอลลาร์สหรัฐ