นายปีแอร์ โอลิเวอร์ กูรินชาส์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ห้วงเวลาที่รอคอยในการเตรียมการลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐเป็นสิ่งที่ตรงกันกับไอเอ็มเอฟสนับสนุนให้ลดดอกเบี้ยดังกล่าว ถึงแม้ว่าความเสี่ยงของปัจจัยเงินเฟ้อในสหรัฐจะยังไม่หมดไปก็ตาม ในทุกวันนี้ จะเห็นได้ชัดเจนว่า เงินเฟ้อสหรัฐมีสัญญาณในที่ดีขึ้น และตลาดจ้างงานมีสัญญาณการชะลอตัวลง ถ้าหากว่าภาวะการจ้างงานไม่ใช่ปัจจัยที่ไปกดดันเงินเฟ้ออีกต่อไปอีกแล้วนั้น เราจะได้เห็นการดึงกลับอัตราดอกเบี้ยเข้าสู่ภาวะสมดุลแท้จริง
ประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ควรจะเพิกเฉย หรือเย็นชาต่อภาวะเงินเฟ้อที่ปรับลดลงมาเรื่อยๆ ภาวะเงินเฟ้อในภาคบริการยังคงอยู่ในระดับผันผวนสูง ท่ามกลางเงินเฟ้อในภาพรวมลดต่ำลงเข้าหาเป้าหมานที่ 2% นั่นจึงทำให้ธนาคารกลางสหรัฐจะต้องทบทวน และคำนวณความรวดเร็ว และขนาดของการปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นบนพื้นฐานของข้อมูลที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ธนาคารยูบีเอส เอจี ซึ่งเป็นธนาคารชื่อดังจากสวิสเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด จะลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 3 ครั้ง หรือลดดอกเบี้ยดังกล่าวในทุกการประชุมที่เหลืออยู่ในปีนี้ไปจนถึงสิ้นปี 2024 นี้ โดยการปรับลดครั้งแรกจะมีขึ้นในการประชุมของเฟดในช่วงวันที่ 17-18 กันยายนนี้ มุมมองของจำนวนการปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นสหรัฐได้เปลี่ยนไปมากหลังการกล่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐในคืนผ่านมา
ทั้งนี้ นายพอล แมคคัลลี อดีตหัวหน้านักเศรษศาสตร์ กองทุนพิมโก้ (Pimco) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ใน 8 การประชุมครั้งหน้า หรือต่อๆไป ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขการจ้างงานชาวอเมริกัน และตัวเลขการว่างงานเดือนสิงหาคมที่ตะประกาศในวันที่ 6 กันยายนนี้ออกมาอย่างน่าผิดหวังจากที่คาดการณ์ไว้ เฟดจะลดดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0.5% ในจำนวนครั้งที่ลดลง