2 สถาบันการเงินชื่อดังห่วงธุรกิจธนาคารเงาในเกาหลีใต้อาจล้ม ปล่อยสินเชื่ออสังหาฯสูงกว่า 24 ล้านล้านบาท

2 สถาบันการเงินชื่อดังห่วงธุรกิจ ธนาคารเงา ใน เกาหลีใต้ อาจล้ม ปล่อยสินเชื่ออสังหาฯสูงกว่า 24 ล้านล้านบาท

ที โรว์ ไพรซ์ และโนมูระ โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็น 2 สถาบันการเงินมีชื่อเสียงระดับโลก เปิดเผยถึงความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดของภาวะหนี้ด้อยคุณภาพที่ปล่อยกู้ให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเกาหลีใต้ หลังจากมีสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นว่าเกาหลีใต้กำลังปะทุปัญหาสถาบันการเงินประเภทธนาคารเงา หรือ Shadow Bangking ซึ่งเชื่อมโยงกับธุรกิจธนาคารเงาทั่วโลกที่มีมูลค่าขนาด 63 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,330 ล้านล้านบาท

สัญญาณอย่างแรกของปัญหาเกิดขึ้นกว่า 19 เดือนที่ผ่านมา เลโก้แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาสวนสนุกชื่อดังของเกาหลีใต้เกิดผิดนัดชำระหนี้กับเงินกู้พัฒนาโครงการสวนสนุก ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางเกาหลีใต้ที่อยู่ในระดับสูง จึงส่งผลให้ผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นในประเทศเกาหลีใต้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 16 ปี หรือนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจการเงินโลกในปี 2008 ต่อมาในเดือนกรกฎาคมปี 2023 เจ้าหน้าที่ภารครัฐ ได้มีคำสั่งปิดสาขาแห่งหนึ่งของธนาคารเงาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีความเหมาะสม

ในเวลาต่อมา รัฐบาลเกาหลีใต้สามารถจำกัดความเสียหายของปัญหาดังกล่าวไว้ในเบื้องต้น ซึ่งเป็นผลจาก บริษัทแทยอง เอ็นจิเนียริง แอนด์ คอนสตรัคชัน ได้รับการยืนยันจากรัฐบาลว่าจะขยายมาตรการช่วยเหลือมูลค่า 66,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.44 ล้านล้านบาท ต่อเนื่องมาถึงเดือนมีนาคมผ่านไป รัฐบาลเกาหลีใต้สนับสนุนมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมให้อีกหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม สัญญาณที่น่าวิตกกังวลยังคงมีให้เห็นเมื่อสถาบันตลาดทุนเกาหลีใต้ หรือเคซีเอ็มไอ (KCMI) เปิดเผยว่า ในปี 2023 อัตราการผิดนัดชำระหนี้ของกลุ่มธนาคารหลักในประเทศเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า ขึ้นมาเป็น 6.55% ด้านนักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารซิตี้กรุ๊ป เปิดเผยว่า มูลค่าหนี้จากสินเชื่อโครงการ มีถึง 111 ล้านล้านวอน หรือ 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.96 ล้านล้านบาท ตกอยู่ในสภาวะมีปัญหา โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อของธนาคารเงาให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้นที่ระดับ 926 ล้านล้านวอน หรือกว่า 24 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่สำคัญยังสูงกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีผ่านมา

รัฐบาลเกาหลีใต้พยายามป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดลุกลามในลักษณะลูกโซ่ จึงได้เพิ่มวงเงินค้ำประกันสินเชื่อบางประเภท อย่างไรก็ตาม การประกาศปรับโครงสร้างองค์กรของของ บริษัทแทยอง เอ็นจิเนียริง แอนด์ คอนสตรัคชันเมื่อช่วงปลายปีผ่านมานั้น กลับเกิดความน่าเป็นห่วง เนื่องจากบริษัทฯ จำเป็นต้องดำเนินการแปลงหนี้เป็นทุน 1 ล้านล้านวอน หรือกว่า 26,000 ล้านบาท เพื่อชำระหนี้ด้อยคุณภาพตามที่เจ้าหนี้รายใหญ่ได้เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ผ่านไป

คณะกรรมการเสถียรภาพทางการเงิน เกาหลีใต้ เปิดเผยว่า การปรับโครงสร้างขององค์กรอย่างปัจจุบันทันด่วนท่ามกลางภาระการเงินสูงย่อมซ้ำเติมความตึงเครียดในธุรกิจกลุ่มธนาคารเงาเนื่องจากธุรกรรมการเงินของธุรกิจกลุ่มนี้มีกิจกรรมที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินอย่างมากมาย เมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วอื่นๆ โดยเป็นรองแค่สหรัฐอเมริกา

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เปิดเผยว่า ยอดปล่อยสินเชื่อของธนาคารเงารวมถึงสินเชื่อภาคเอกชนในเกาหลีใต้ขยายตัวอย่างรวดเร็วหลังวิกฤตการณ์เศรษฐกิจการเงินปี 2008 ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ต่างลดการปล่อยสินเชื่อเสี่ยง ซึ่งเป็นการผลักดันให้ธุรกิจขนาดเล็กและมีกำไรน้อยนั้น ต้องหันไปขอสินเชื่อจากแหล่งเงินทุนทางเลือก

ปัญหาภาระทางการเงิน หรือต้นทุนการเงินพุ่งสูงอย่างรวดเร็วเมื่อธนาคารกลางเกาหลีใต้ อยู่ในกลุ่มแรกของธนาคารกลางทั่วโลกที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเริ่มตั้งแต่ในปี 2021 ส่งผลให้เป็นความท้าทายในการปรับโครงสร้างการเงิน การกู้ยืมเหล่านี้ก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ความคืบหน้าล่าสุด คือ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของเกาหลีใต้ กล่าวในช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ว่า จะดำเนินการตรวจสอบธนาคารพาณิชย์หลังจากประเมินหนี้ที่ผิดนัดชำระสำหรับไตรมาสแรก

นายเจียง วู พาร์ค นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารโนมูระ โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า รัฐบาลเกาหลีใต้จะเร่งปรับโครงสร้างในภาคอสังหาริมทรัพย์ การแก้ไขหนี้ของแทยง ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นไปได้ว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของโครงการอสังหาฯ ต่างๆ ตามมา

หากจำกันได้ วิกฤตการณ์อสังหาริมทรัพย์ในจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อปีผ่านมาจนถึงองทุกวันนี้ ส่งผลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปักกิ่ง ทำให้เกิดการผิดนัดหนี้หุ้นกู้มากกว่า 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4.81 ล้านล้านบาท นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนยังเผชิญสภาวะเงินฝืด วิกฤตการณ์ทั้งหมดในจีนแผ่นดินใหญ่ส่งผลกระทบรุนแรงกับ ธนาคารจงจื่อ ซึ่งเป็นธนาคารเงายักษ์ใหญ่ที่สุดในจีนต้องประกาศล้มละลายในปีนี้ด้วย

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles