3 สัปดาห์ตลาดหุ้นสหรัฐเสียหายเกือบ 180 ล้านล้านบาท ผลพวงดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ดิ่งแรงทะลุโซนปรับฐาน Correction

3 สัปดาห์ตลาด หุ้น สหรัฐ เสียหายเกือบ 180 ล้านล้านบาท ผลพวงดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ดิ่งแรงทะลุโซนปรับฐาน Correction

วันพฤหัสบดี 13 มีนาคม 2025 ซึ่งเป็นวันที่ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ปิดดำดิ่งลงมากถึง -10.1% จากสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2025 ผ่านมา ส่งผลเกิดภาวะดัชนีหุ้นปรับฐาน หรือ Correction สมบูรณ์แบบ นั่นหมายถึง มูลค่าตลาดในดัชนีหุ้นดังกล่าวจากที่เคยมีถึง 52.06 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,770 ล้านล้านบาทในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2025 เสียหายไปถึง 5.28 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 179.5 ล้านล้านบาท ลงมาเหลือที่ 46.78 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,591 ล้านล้านบาทในวันที่ 13 มีนาคม 2025 หรือเกิดขึ้นภายใน 24 วัน

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 มีนาคม2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 40,813 จุด -537 จุด หรือ -1.30% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,521 จุด -77 จุด หรือ -1.39% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 17,303 จุด -345 จุด หรือ -1.96% ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดำดิ่ง 4 วันติดกันรวม -1,987 จุด หรือ -5.44% นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกในปี 2025 ที่ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดดำดิ่งถึง -10.1% จากสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ผ่านมา ส่งผลเกิดภาวะดัชนีหุ้นปรับฐาน หรือ Correction สมบูรณ์แบบ สอดรับกับดัชนีหุ้นนาสแดคปิดดิ่งลงอีกเกินกว่า -10% ในโซนดัชนีหุ้นปรับฐาน หรือ Correction ต่อไป

ที่สำคัญ ดัชนีหุ้นรัสเซล 2000 (Russell 2000) ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นที่มีมูลค่าของบริษัทขนาดเล็กจดทะเบียนอยู่นั้น พบว่ามีค่าดัชนีดำดิ่งลงอย่างรุนแรงถึง -19% ซึ่งใกล้จะ -20% เมื่อเทียบกับค่าดัชนีดังกล่าวที่ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงผ่านมา ทำให้ใกล้จะเกิดภาวะหมี หรือ Bear Market อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ ราคาของหุ้นในกลุ่ม 7 นางฟ้า หรือ Magnificent 7 ซึ่งเป็นหุ้นของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก พบว่าราคาหุ้นของ 5 บริษัทจากทั้งหมด 7 บริษัทมีราคาดำดิ่งติดลบเกินกว่า 20% ส่งผลทำให้เกิดราคาหุ้นเข้าสู่ภาวะหมี หรือ Bear Stock อย่างสมบูรณ์แบบด้วย ได้แก่ เทสลา -50.7% เอ็นวีเดีย -24.5% อัลฟาเบธ(กูเกิ้ล) -21.4% เมตา(เฟสบุ๊ก) -20.3% อเมซอน -20.1% ขณะที่มีเพียง แอปเปิล -19.4% และไมโครซอฟท์ -19.1%

สาเหตุจากความกังวลในความไม่แน่นอนสูงของมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าของประธานาธิบดีสหรัฐส่งผลต่อแนวโน้มที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ที่สำคัญ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา นายโฮวาร์ด ลุทนิค กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอาจจะคุ้มค่า เพื่อที่จะให้นโยบายด้านเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles