สายการบินไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจสายการบินชื่อดังของประเทศจีน เปิดเผยว่าได้ยกเลิกแผนการขายเครื่องบินโบอิ้งรุ่นบี 787-8 จำนวน 10 ลำและยกเลิกแผนการขายเครื่องยนต์ยี่ห้อจีอีที่ใช้กับเครื่องบินโบอิ้งจำนวน 2 เครื่องยนต์ ซึ่งแผนในการขายทั้งเครื่องบินและเครื่องยนต์ที่ใช้ในเครื่องบินดังกล่าวนั้น ได้ประกาศมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2024 เพื่อเป้าหมายในการจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้ง และเครื่องยนต์ที่ใช้ในเครื่องบินโบอิ้งชุดใหม่ สาเหตุที่ทำให้สายการบินดังกล่าวต้องประกาศยกเลิกแผนการขายเป็นผลมาจากรัฐบาลจีนได้มีคำสั่งเมื่อเย็นวานนี้ให้สายการบินสัญชาติจีนยกเลิกการรับมอบเพิ่มเติมเครื่องบินโบอิ้งจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแผนในการตอบโต้สงครามภาษีที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกามีต่อประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม แผนการจัดซื้อเครื่องบินลำใหม่เพื่อเข้าประจำฝูงบินของสายการบินไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ ได้รับผลกระทบในระยะกลางและระยะยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจาก ตัวเลขล่าสุดเมื่อสิ้นปี 2024 ที่ผ่านมาพบว่าจำนวนเครื่องบินมากถึงครึ่งหนึ่งหรือ 50% ของฝูงบินในสายการบินไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ เป็นยี่ห้อโบอิ้งจากสหรัฐอเมริกา ที่สำคัญมีแผนที่จะต้องรับการส่งมอบเครื่องบินโบอิ้งลำใหม่เป็นจำนวนมากถึง 90 ลำในในช่วงระหว่างปี 2025 ถึง 2027 นี้
ด้านสายการบินแอร์ ไชน่า เปิดเผยว่า มีแผนในการรับมอบเครื่องบินลำใหม่ยี่ห้อโบอิ้งจากสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวน 45 ลำในช่วงระหว่างปี 2025 ถึง 2027 เช่นเดียวกัน สอดคล้องกับสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ เปิดเผยว่ามีแผนในการรับมอบเครื่องบินลำใหม่จำนวน 53 ลำจากโบอิ้งด้วย
ดังนั้น ทั้งสามสายการบินชั้นนำของประเทศจีนมีแผนการรับการส่งมอบเครื่องบินโบว์อิ้งละไมทั้งหมดรวมกัน 188 กรัมภายในช่วงระยะเวลาไม่ถึง 3 ปีจากนี้ไป ส่งผลให้บรรดาสายการบินสัญชาติจีนจะต้องมีการทบทวน หรือรื้อแผนในการบริหารการสั่งซื้อเครื่องบินลำใหม่เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในธุรกิจการบินภายในและต่างประเทศของจีน
ย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ 15 เมษายน 2025 รัฐบาลจีนประกาศคำสั่งให้บรรดาสายการบินสัญชาติจีนงดรับการส่งมอบเพิ่มเติมของเครื่องบินยี่ห้อโบอิ้ง ซึ่งผลิตโดยบริษัทโบอิ้ง อินคอร์ปอเรชั่น จากสหรัฐอเมริกา รัฐบาลจีนให้เหตุผลว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการตอบโต้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศมาตรการภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs สูงถึง 145% กับสินค้านำเข้าจากประเทศจีน
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนร้องขอไปยังบรรดาสายการบินสัญชาติจีนให้ยกเบิกการซื้ออุปกรณ์และอะไหล่ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินโบอิ้งของสหรัฐอเมริกาด้วย นอกจากนี้ รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาหาแนวทางที่จะให้ความช่วยเหลือแก่สายการบินจีนที่เช่าเครื่องบินของโบอิ้งและกำลังเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
คำสั่งดังกล่าวของรัฐบาลจีนในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศมาตรการตอบโต้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาด้วยการขึ้นภาษีสูงถึง 125% กับสินค้าและสิ่งอื่นใดก็ตามที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา จึงทำให้ต้นทุนในการผลิตเครื่องบิน รวมถึงต้นทุนในการผลิตอุปกรณ์และอะไหล่เครื่องบินของโบอิ้งสูงขึ้นกว่า 2 เท่า จึงทำให้สายการบินสัญชาติจีนไม่สามารถยอมรับราคาที่เพิ่มสูงขึ้นมากได้
คำสั่งของรัฐบาลจีนดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสายการบินสัญชาติจีนที่ใช้วิธีเช่าซื้อเครื่องบินโบอิ้งมาทำการบิน ทำให้รัฐบาลจีนเตรียมพิจารณามาตรการช่วยเหลือด้านการเงินให้กับสายการบินที่เผชิญปัญหาต้นทุนที่สูงมากขึ้น
โบอิ้ง อินคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเครื่องบินโบอิ้งที่รอส่งมอบให้กับลูกค้าสายการบินสัญชาติจีนรวม 10 ลำ เป็นรุ่น 737 แม็กซ์ เช่น สายการบินไชน่า เซ้าท์เทิร์น แอร์ไลน์ สายการบินแอร์ ไชน่า และสายการบินเซี้ยะเหมิน แอร์ไลน์ จำนวนสายการบินละ 2 ลำ ในสัปดาห์ที่แล้ว สายการบินจุนเหย่า แอร์ไลน์ ได้แจ้งให้มีการเลื่อนการส่งมอบเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 787-9 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งมีกำหนดส่งมอบใน 3 สัปดาห์
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการบินในจีน เปิดเผยว่า คำสั่งของรัฐบาลจีนในครั้งนี้อาจดูเหมือนว่าค่ายแอร์บัส ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินจากประเทศฝรั่งเศสจะได้รับประโยชน์อย่างมาก รวมถึงจีนสามารถผลิตเครื่องบินเชิงพาณิชย์มีชื่อว่าโคแมก (COMAC) ในรุ่น C919 ที่มีหน้ากว้างปานกลาง ซึ่งอาจนำมาเติมเต็มฝูงบินจีนนั้น แต่ในความเป็นจริงกลับพบว่าฝูงบินของสายการบินสัญชาติจีนที่มีจำนวนหลาย 100 ลำในปัจจุบันล้วนเป็นเครื่องบินโบอิ้งของสหรัฐอเมริกามากกว่าเครื่องบินแอร์บัสของฝรั่งเศส ดังนั้น ความจำเป็นในการใช้อุปกรณ์ ชิ้นส่วน และอะไหล่เครื่องบินโบอิ้ง จึงมีความจำเป็นจำนวนมากมากมาย รวมถึงยังมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับบริการการดูแล บำรุงรักษา และซ่อมแซมจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของค่ายโบอิ้งอีกด้วย
