อ็อกซ์แฟม (Oxfam) ซึ่งเป็นองค์กรประเภทนอกภาครัฐที่ไม่แสวงหารายได้ หรือ NGO มุ่งเน้นในการช่วยเหลือและพัฒนาให้กับประเทศที่ยากไร้ เปิดเผยรายงานความเหลื่อมล้ำ หรือความไม่เท่าเทียมกันประจำปี พบว่ามูลค่าความร่ำรวยของมหาเศรษฐี 5 คนแรกของโลกมีรวมกันถึง 869,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 30 ล้านล้านบาท พุ่งสูงทะยานถึง 114% ในช่วงเวลา 4 ปีผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา หากแนวโน้มความร่ำรวยยังคงเพิ่มขึ้นในอัตราดังกล่าว จะทำให้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่จะมีมหาเศรษฐีมีมูลค่าความร่ำรวยสุทธิแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (Trillionair) หรือกว่า 35 ล้านล้านบาท
ในช่วงเวลา 4 ปีผ่านมาเช่นเดียวกัน พบว่ามีประชากรที่ยากจนอยู่แล้วเกือบ 5,000 ล้านคนทั่วโลกที่เผชิญความยากจนมากขึ้นอีก สาเหตุจากวิกฤตเงินเฟ้อสูงในรอบหลายทศวรรษทั่วโลก ผลกระทบจากความขัดแย้งสงครามในปัญหาภูมิภาคยุโรประหว่างรัสเซียกับยูเครน และอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสติดอาวุธ และวิกตภาวะโลกร้อนเพิ่มมากขึ้น หากจะขจัดความยากจนให้หมดสิ้นไป จะต้องใช้เวลายาวนานถึง 230 ปี บนการประเมินจากแนวโน้มของสถานการณ์เศรษฐกิจ ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ และโลกร้อน
สำหรับมหาเศรษฐีที่รวยมากที่สุดในโลกทั้ง 5 อันดับแรกในปี 2023 ได้แก่ อันดับ 1 นายอีลอน มัสค์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารเทสลา อินคอร์ปอเรชั่น และสเปซเอ็กซ์ มีความร่ำรวยพุ่งแตะ 245,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 8.6 ล้านล้านบาท ซี่งร่ำรวยทะยานถึง 737% เทียบจากเดือนมีนาคมปี 2020
อันดับ 2 นายเบอร์นาร์ด อาร์โนลท์ ผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัทแอลวีเอ็มเอช (LVMH) เป็นเจ้าของแบรนด์เนมสินค้าเครื่องหนังและเสื้อผ้าสุดหรูหราจากฝรั่งเศส มีความร่ำรวยพุ่งแตะ 191,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 6.7 ล้านล้านบาท ซี่งร่ำรวยทะยานถึง 111%
อันดับ 3 นายเจฟฟ์ เบโซส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทอเมซอน อินคอร์ปอเรชั่น มีความร่ำรวยพุ่งแตะ 167,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5.8 ล้านล้านบาท ซี่งร่ำรวยเพิ่มขึ้น 24% อันดับ 4 นายแลรี่ เอลลิสัน ผู้ก่อตั้งบริษัทออราเคิล อินคอร์อเรชั่น มีความร่ำรวยพุ่งแตะ 145,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5.1 ล้านล้านบาท ซี่งร่ำรวยเพิ่มขึ้น 107% และอันดับ 5 นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเบิร์กไชร์ ฮัททะเวย์ มีความร่ำรวยพุ่งแตะ 119,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 4.2 ล้านล้านบาท ซี่งร่ำรวยเพิ่มขึ้น 48%
ในภาพรวมแล้ว มหาเศรษฐีทั่วโลกมีความร่ำรวยเพิ่มสูงขึ้นมากถึง 3.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 115.5 ล้านล้านบาท หรือพุ่งสูงขึ้น 34% นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา นั่นหมายถึงอัตราความร่ำรวยของมหาเศรษฐีทะยานขึ้นถึง 3 เท่า และเพิ่มขึ้นรวดเร็วกว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย สาเหตุจากผลตอบแทนจากการเป็นเจ้าของและบริหารธุรกิจของบริษัทตนเอง ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะในปี 2023 ผ่านมา ทำให้มีความร่ำรวยเพิ่มสูงขึ้นถึง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 56 ล้านล้านบาท
