เวียดนามถือเป็นประเทศม้ามืดทางด้านเศรษฐกิจที่น่าจับตา อ้างอิงจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่อเนื่องมาหลายไตรมาสจากปัจจัยเอื้อรอบด้าน ขณะเดียวกันก็มีนโยบายส่งเสริมการลงทุนต่างๆ ทั้งยังมีแรงงานทักษะสูงรวมถึงอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่คิดต่อวันอยู่ที่ประมาณ 11 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 363 บาท) ที่เป็นแรงจูงใจดึงดูดให้บริษัทต่างชาติเทใจขนเม็ดเงินมาลงทุนเป็นจำนวนมาก
ซึ่งเซ็นทรัล รีเทล ก็ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศ และมีความพร้อมที่จะเป็นหนึ่งในธุรกิจต่างชาติที่เติบโตในเวียดนาม จึงตัดสินใจกระโดดเข้าไปบุกเบิกธุรกิจค้าปลีกมาตั้งแต่ปี 2555 โดยเริ่มจากการเป็นผู้จำหน่ายแบรนด์สินค้าแฟชั่น ต่อมาในปี 2557 เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม มีจำนวนร้านค้าทั้งสิ้น 22 แห่ง สามารถสร้างรายได้ราวๆ 300 ล้านบาท ล่าสุดในปี 2566 ก็ทุบสถิติการเติบโตอย่างก้าวกระโดดกวาดรายได้โตกว่า 160 เท่า มียอดขายอยู่ที่กว่า 47,000 ล้านบาท รวมถึงเพิ่มจำนวนร้านค้าขึ้นเป็นกว่า 300 แห่ง
สำหรับปี 2567 เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม ปักหมุดหมายว่าจะมีศูนย์การค้าทั้งหมด 42 แห่ง มีร้านค้ามากกว่า 300 แห่ง ครอบคลุม 42 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ ประกอบไปด้วย 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจฟู้ด ธุรกิจน็อนฟู้ด และธุรกิจพร็อพเพอร์ตี้ พร้อมทั้งมีการให้บริการบนแพลตฟอร์มออมนิแชแนล ทั้งร้านค้า และช่องทางออนไลน์ รวมถึงเซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม ยังมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งกว่า 12 ล้านคน
จากความสำเร็จนี้ ส่งผลให้เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม ขึ้นแท่นผู้นำค้าปลีกต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในเวียดนาม เป็นอันดับ 1 ไฮเปอร์ มาร์เก็ต (King of Food Retail) และอันดับ 2 ด้านศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ (King of Mall) โดยเซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม ได้วางแผนที่จะขยายธุรกิจในอีก 5 ปี ให้ครอบคลุมพื้นที่ 55 จังหวัดจาก 63 จังหวัด ทั่วประเทศเวียดนาม
ทำความรู้จักอาณาจักรของเซ็นทรัล รีเทล ในประเทศเวียดนาม
เริ่มต้นด้วยธุรกิจเรือธงกับ “GO!”
เซ็นทรัล รีเทล ได้ริเริ่มแบรนด์ GO! ในเวียดนามมาตั้งแต่ปี 2561 และได้ขยายธุรกิจทั่วประเทศเวียดนามในรูปแบบโมเดลต่างๆ ทั้งศูนย์การค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต และสินค้า Private Label ภายใต้แบรนด์ GO! รวมถึงยังมีแอปพลิเคชัน GO! ที่เป็นหนึ่งในแอปช้อปปิ้งยอดนิยมในเวียดนามอีกด้วย
- ศูนย์การค้า GO! (GO! Mall)
ศูนย์การค้าที่ครบวงจรที่สุดที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปเมื่อปี 2561 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Eat – Shop – Play- Learn – Sustain” ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าชาวเวียดนาม โดยปัจจุบันศูนย์การค้า GO! มีทั้งหมด 40 สาขา ครอบคลุม 30 จังหวัด ถือเป็นศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์อันดับ 2 ในเวียดนามที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ตอบโจทย์ด้วยสินค้าและบริการที่ครบครันเพื่อลูกค้าทุกช่วงวัย นอกจากนี้ ศูนย์การค้า GO! ยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมค้าปลีกในเวียดนามให้เติบโต ทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเวียดนามผ่านการจ้างงานคนในท้องถิ่นอีกด้วย
- ไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! (GO! Hypermarket)
เชนไฮเปอร์มาร์เก็ตยอดนิยมในเวียดนามที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2561 กับการชูจุดเด่นด้วยราคาที่จับต้องได้ “price is always low” ที่ต่อยอดมาจาก Big C เติมเต็มทุกความคุ้มค่าในทุกไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้าด้วยสินค้าและบริการคุณภาพแน่น รวมถึงอาหารที่หลากหลาย ซึ่งไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! ยังได้ริเริ่มการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเมชั่นในอุตสาหกรรมค้าปลีกของเวียดนามผ่านการผสมผสานนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สนุกสนานและมีเอกลักษณ์ให้กับลูกค้า ปัจจุบันไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! ขึ้นแท่นอันดับ 1 ไฮเปอร์มาร์เก็ตในเวียดนาม ที่มีทั้งหมด 39 สาขา ครอบคลุม 30 จังหวัดทั่วประเทศ
- ซูเปอร์มาร์เก็ต มินิ โก! (go! Supermarket)
เปิดตัวครั้งแรกในปี 2563 โดยซูเปอร์มาร์เก็ต มินิ โก! เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่ยกระดับการช้อปปิ้งในพื้นที่ย่านชานเมืองและเมืองขนาดกลางของเวียดนามที่รวมทั้งแหล่งช้อปปิ้งและแหล่งเอนเทอร์เทนเมนต์เข้าไว้ด้วยกัน ผ่านคอนเซปต์ “Eat – Shop – Play” ชูจุดเด่นผ่านการนำเสนอสินค้าคุณภาพใน “ราคาที่ถูกทุกวัน” (Every Day Low Price) ทั้งอาหาร ของใช้ในบ้าน สินค้าแฟชั่นและความงาม
ปัจจุบันซูเปอร์มาร์เก็ต มินิ โก! มีทั้งสิ้น 11 สาขา ครอบคลุม 8 จังหวัด และยังมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตของชุมชนในเขตชานเมืองของเวียดนามอีกด้วย
- สินค้าแบรนด์ GO!
เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2566 มีสินค้าเริ่มต้น 62 SKU ใน 9 หมวดหมู่สินค้า และได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลา 1 ปี โดยมีผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ GO! เพิ่มขึ้นเป็น 400 SKU ใน 60 หมวดหมู่สินค้า สร้างมูลค่าการขายเฉลี่ยรายเดือนในปี 2567 เพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งครอบคลุมสินค้ากลุ่มอาหารในทุกหมวดหมู่
การลงทุนในสินค้า Private Label ภายใต้แบรนด์ GO! ถือเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในตลาดเวียดนามของเซ็นทรัล รีเทล และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่มองหาสินค้าในราคาที่เข้าถึงได้
สำหรับการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 3 เซ็นทรัล รีเทล เวียดนามยังเติบโตต่อด้วยการเปิดตัวศูนย์การค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! ในเมืองห่านาม (Hà Nam Ninh) ไปเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2567 รวมถึงเตรียมเปิดศูนย์การค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! ใหม่ ในอีก 2 เมือง คือ เมืองนินห์เถวิ่น (Ninh Thuận) และเมืองบักเลียว (Bạc Liêu) ในไตรมาส 4
นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม ยังคงตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดค้าปลีก โดยการส่ง 2 แบรนด์ยอดนิยมเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงในเวียดนามผ่านเครือเซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (CMG) ในเวียดนาม ได้แก่
1. Dyson ผู้นำด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมระดับโลก ที่ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยในตลาดเวียดนาม ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเช่นเดียวกับในประเทศไทย ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 14 สาขา ตั้งอยู่ในเมืองฮานอย ดานัง และเมืองโฮจีมินห์
โดยผลประกอบการในปี 2567 ของ Dyson เติบโตสูงถึง 46% (YoY) สะท้อนให้เห็นถึงการตอบรับเป็นอย่างดีของผู้บริโภคชาวเวียดนามที่มีต่อแบรนด์ และโอกาสเติบโตอีกมากของเซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป ในเวียดนาม
2. FitFlop แบรนด์รองเท้าที่มีความโดดเด่นในด้านนวัตกรรม เพื่อความสบายและสุขภาพ ที่เจาะกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง โดยเข้าตลาดเวียดนามตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2567 และเปิดไปแล้วทั้งสิ้น 6 สาขา พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์
จากความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีเลิศให้กับลูกค้าชาวเวียดนาม ส่งผลให้เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม สามารถคว้าอันดับ 1 จากรางวัล 10 บริษัทยอดเยี่ยมในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ค้าปลีก และบรรจุภัณฑ์ประจำปี 2567 เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งจัดขึ้นโดย เวียดนาม รีพอร์ต (Vietnam Report –VNR) บริษัทชั้นนำด้านการรายงาน การประเมิน และการจัดอันดับธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และบริการในเวียดนาม
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทค้าปลีกที่ดีที่สุดในปีนี้ มาจากรายงานสถานะทางการเงินของบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง และชื่อเสียงของบริษัทที่ได้รับการยอมรับจากชาวเวียดนามมาอย่างยาวนาน สะท้อนภาพการเป็นผู้นำค้าปลีกต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม ที่ดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวเวียดนามให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน