วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ได้ร่วมกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จัดเสวนา “Mega Trends for SMEs 2024” เพื่ออัพเดตเทรนด์ธุรกิจและเทรนด์การตลาดเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาปริญญาโทที่กำลังจะก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการมือใหม่ รวมถึงผู้ประกอบการ SMEs ทั่วไปก้าวทันเทรนด์แห่งอนาคต ปรับตัวทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เข้าใจและมองเห็นโอกาสจากการตลาดยุคดิจิทัลเพื่อนำไปประยุกต์ใช้และพัฒนาธุรกิจ โดยได้เชิญกูรูระดับแถวหน้าของประเทศทั้งในแวดวงธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์และด้านการตลาดดิจิทัลมาร่วมแบ่งปันความรู้และถ่ายทอดประสบการณ์
ธงชัย โชคถนอมทรัพย์ นายกสมาคมการค้าธุรกิจผู้สูงอายุและเวลเนสเพื่อการมีสุขภาวะที่ยั่งยืน และประธานกรรมการบริหาร KIN – Rehabilitation & Homecare และ Kin Origin health care ได้เผยถึงเทรนด์ธุรกิจที่น่าจับตามองในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคตซึ่งมีหลายกลุ่มธุรกิจที่มาแรงแต่ที่โดดเด่นและเป็นเมกะเทรนด์โลก ได้แก่ ธุรกิจด้านสุขภาพ (Health & Wellness) และธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงโดย “ธุรกิจสุขภาพ” ยังคงเป็นเมกะเทรนด์ที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุ จากการที่ปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aged Society) อย่างเต็มตัว มีประชากรผู้สูงอายุประมาณ 20% ของประชากรทั้งหมด และมีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 27% ในอีก 10 ปีข้างหน้า ทำให้ไทยเข้าสู่ภาวะ “Super Aged Society” เช่นเดียวกับญี่ปุ่น ส่งผลให้ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุเติบโตอย่างรวดเร็วและมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมากในอนาคต โดยมีปัจจัยหนุนที่สำคัญ ได้แก่
· ธุรกิจ Wellness โตเร็วทั่วโลก ภาพรวมธุรกิจ Wellness ทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 5.6 ล้านล้านบาท ในปี 2022 และได้รับการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 8.5 ล้านล้านบาท
ในปี 2027 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 8.6%
· กลุ่มผู้สูงวัยคือสายเปย์ตัวจริง กลุ่มผู้สูงอายุ หรือ Silver age (อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป) เป็นวัยที่มีความพร้อมทั้งด้านการเงินและเวลา อีกทั้งยังสนใจในการดูแลสุขภาพและให้ความสำคัญ
กับการป้องกันมากกว่าการรักษา จึงเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
· คู่แข่งยังน้อย เริ่มก่อน ได้เปรียบกว่า ข้อมูลที่น่าสนใจจาก Nielsen IQ (Thailand) ระบุว่ามูลค่าตลาดค้าปลีกกว่า 9 แสนล้านบาท ที่ขายอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตมีสินค้าที่เจาะจงกลุ่มผู้สูงอายุไม่ถึง 1% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม จึงเป็นตลาดที่มีโอกาสอย่างมากในการนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ๆ
· การดูแลผู้สูงวัย ธุรกิจน้องใหม่มาแรง เมื่อเทียบกับธุรกิจการดูแลสุขภาพอื่นๆ พบว่าสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพและความงามมีการเติบโตสูงสุด ในขณะที่ธุรกิจการดูแลผู้สูงอายุยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นแต่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต
และธุรกิจสัตว์เลี้ยง โตสวนกระแส ไม่แคร์เศรษฐกิจทรุด โดยธีระนันท์ เฉลยวิมาน ผู้บริหารธุรกิจสัตว์เลี้ยง บริษัท เอ็มอาจีเอ็น เพ็ทแคร์ จำกัด และผู้บริหารห้างสรรพสินค้ากล่าวว่าไม่ว่าจะเศรษฐกิจตกต่ำหรือภาวะแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่หลายธุรกิจต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ธุรกิจสัตว์เลี้ยงกลับโตสวนกระแสโดยมีอัตราการเติบโตมากกว่า 10% ต่อปีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าธุรกิจนี้มีศักยภาพและยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ทั้งนี้เพราะ
· เทรนด์ Pet Parent มาแรง แซงมีลูกจริง ข้อมูลจากงานวิจัย Petsumer Marketing เจาะลึกอินไซต์โดนใจทาสสายเปย์ ของ CMMU พบว่าปัจจุบันคนไทยมีแนวโน้มที่จะมีลูกน้อยลงหรือ
เลือกที่จะไม่มีลูกเลย แต่นิยมเลี้ยงสัตว์แทนลูก ทำให้สัตว์เลี้ยงเหล่านี้ได้รับการดูแลเหมือนสมาชิกในครอบครัว และมีค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงต่อ 1 ตัว อยู่ที่ประมาณ 14,000 บาท – 20,000 บาท ต่อปี
·โอกาสมากมายเพราะตลาดสัตว์เลี้ยงไทย มูลค่ามหาศาล ตลาดสัตว์เลี้ยงในไทยมีมูลค่าสูงถึง 75,000 ล้านบาท โดยอาหารสัตว์เลี้ยงครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดถึง 44,600 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน ไทยเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับ 3 ของโลก และมีแนวโน้มที่จะก้าวขึ้นเป็นอันดับสองในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น อุปกรณ์และแฟชั่น (Accessories) 22,900 ล้านบาทการรักษาพยาบาล 6,600 กว่าล้านบาท และบริการอื่นๆ เช่น เสริมสวยสำหรับสัตว์เลี้ยง (Grooming) มูลค่าประมาณ 900 ล้านบาท
· มีช่องว่างให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้ามาได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็น Food & Restaurantที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาทานอาหารร่วมกับเจ้าของได้ Pet Hotel โรงแรมสำหรับสัตว์เลี้ยง
Pet Society พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงและเจ้าของได้มาพบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และทำกิจกรรมร่วมกัน Pet Grooming บริการเสริมสวยสำหรับสัตว์เลี้ยง นวัตกรรมสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น
การพัฒนาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับสัตว์เลี้ยง หรือการใช้ AI เพื่อดูแลและสื่อสารกับ สัตว์เลี้ยงจากระยะไกล รวมถึงการจัดงานศพสำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งกำลังได้รับความนิยม โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาทต่อครั้ง
ชุติมา วิริยะมหากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส จำกัด ได้พาไปเจาะลึกถึงทิศทางและเทรนด์การตลาดดิจิทัลที่ SMEs จำเป็นต้องรู้ ปรับตัวให้ทัน และปรับใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจ เพื่อให้สามารถอยู่รอดและเติบโตท่ามกลางตลาดที่มีการแข่งขันสูงและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยมี 3 ประเด็นสำคัญ1.เทรนด์การตลาดดิจิทัล ที่ SMEs ควรรู้ 2.ใช้ประโยชน์จาก AI ผู้ช่วยมือทองของธุรกิจยุคดิจิทัล และ 3 โซเชียลมีเดียและดิจิทัลแพลตฟอร์ม: ทางลัดสู่ความสำเร็จของธุรกิจยุคใหม่
ปัจจุบันคนไทยใช้เวลาบนโลกออนไลน์เฉลี่ยถึง 7.2 ชั่วโมงต่อวัน โดยในจำนวนนี้ใช้เวลาไปกับโซเชียลมีเดียถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาที่มากพอที่จะทำให้ธุรกิจสามารถนำเสนอสินค้าและบริการและสร้างโอกาสทางธุรกิจได้อย่างมหาศาล โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจเปิดเผยว่าคนไทยซื้อสินค้าออนไลน์มากกว่าซื้อจากร้าน 7-11ทุกสาขารวมกัน และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จ เห็นได้ว่าถ้า SMEsสามารถนำธุรกิจเข้าสู่โซเชียลคอมเมิร์ซได้ จะช่วยสร้างยอดขายได้อย่างรวดเร็ว เพราะโซเชียลคอมเมิร์ซ คือช่องทางขนาดมหึมาที่เข้าถึงผู้บริโภคได้