ตลาดซื้อขายทองคำโลก นิวยอร์ก รายงานว่า วันที่ 13 มกราคม 2025 ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Gold Spot ปิดที่ 2,658.84 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -29.56 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.1% อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างวันศุกร์ที่ 11 มกราคมของการซื้อขาย พบว่าราคาทองคำร่วงลงลึกแตะระดับ 2,663.09 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะพลิกกลับพุ่งสูงขึ้นจนปิดตลาดในราคาสูงสุดในรอบ 1 เดือน
ย้อนกลับไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคมผ่านมาทำสถิติราคาทองคำปิดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์กว่า หรือตั้งแต่ 13 ธันวาคม 2024 สำหรับราคาทองคำส่งมอบทันที หรือ Spot ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2024 ที่ระดับ 2,790.15 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติราคาส่งมอบทันที (Spot) ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เกิดขึ้นรวมทั้งหมด 7 ครั้งในเดือนตุลาคม 2024
สอดรับกับราคาทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 2,677.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -40.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.4% ทำสถิติราคาทองคำปิดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์กว่า หรือตั้งแต่ 13 ธันวาคม 2024 ส่งผลหยุดราคาปิดขึ้น 4 วันติดกันรวม +72.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +3.0% ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาทองคำปิดขึ้นกว่า +1%
ในปี 2024 ราคาทองคำโลกทะยาน +26% ทำสถิติเป็นปีที่ดีที่สุดของทองคำโลกในรอบ 14 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา ในเดือนตุลาคมที่ผ่านไป ทำสถิติราคาทองคำล่วงหน้า (Future) ปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เกิดขึ้นรวมทั้งหมด 6 ครั้ง โดยมีราคาล่วงหน้า (Future) สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ระดับ 2,800.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2024
สาเหตุจากนักลงทุนกลับมาให้น้ำหนักตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐในคืนที่ผ่านมา ได้แก่ ยอดการจ้างงานชาวอเมริกันนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธันวาคมพุ่งสูงขึ้นถึง 256,000 คน ซึ่งพุ่งสูงขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 160,000 คน นอกจากนี้ อัตราการว่างงานเดือนธันวาคมยังลดต่ำลงไปอยู่ที่ระดับ 4.1% ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 4.2% ปัจจัยเกี่ยวกับการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และอัตราว่างงานที่ยังคงแข็งแกร่งนี้ถือเป็นแรงกดดันต่อแนวโน้มจำนวนครั้งในการลดดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งสูงในรอบ 2 ปี 1 เดือน หรือตั้งแต่พฤศจิกายน 2022 เป็นต้นมา
ในขณะเดียวกันลดปัจจัยนับถอยหลังวันอีก 10 วันในวันสาบานตนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 มกราคมนี้ รวมทั้งความไม่แน่นอนของกระแสข่าวการดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจตามที่ได้หาเสียงไว้