ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า วันที่ 30 มกราคม 2025 ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 72.73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.11 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.2% ด้านราคาน้ำมันดิบ เบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 76.87 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.29 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +0.4%
ในสัปดาห์ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้งสองตลาดสำคัญปิด -4.1% % และ -2.8% ตามลำดับ ส่งผลเป็นราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ปิดลดลงครั้งแรกใน 4 สัปดาห์ที่ปิดขึ้นติดต่อกันผ่านมา ในปี 2024 ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดสุทธิลดลง 3% เมื่อเทียบกับปี 2023 ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ มีราคาปิดสุทธิเสมอตัวกับในปี 2023
สาเหตุจากกลุ่มโอเปกพลัสจะมีการประชุมในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ โดยเฉพาะการตัดสินใจเกี่ยวกับแนวโน้มการเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนเมษายนตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์กันไว้ ด้านทำเนียบขาว สหรัฐ เปิดเผยว่า ในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้า 25% จากประเทศแคนาดา และเม็กซิโก พร้อมรายละเอียดที่ชัดเจน
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวแสดงมุมมองเศรษฐกิจบนเวทีการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum ที่เมืองดาวอส สวิสเซอร์แลนด์ เรียกร้องให้ซาอุดิอาระเบีย และกลุ่มโอเปกพลัสลดราคาน้ำมันดิบ ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ประกาศภาวะพลังงานฉุกเฉินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ด้วยการใช้นโยบายสนับสนุนการผลิตน้ำมันดิบในประเทศเพิ่มขึ้นจากเดิม ส่งผลให้แนวโน้มภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดโลกในปีนี้จะเกิดขึ้นตามการคาดการณ์ของสำนักพลังงานระดับสากลหลายแห่ง นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐเตรียมยกเลิกการซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลา
ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมันทุกรายในประเทศไทยปรับราคาขายน้ำมันมีผลวันที่ 23 มกราคมนี้ โดยลดราคากลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 40-50 สตางค์/ลิตร ไม่เพียงเป็นการลดราคาน้ำมันขายปลีกครั้งที่ 3 ของปี 2025 แต่ยังเป็นการลดราคามากที่สุดในรอบเกือบ 3 เดือน หรือตั้งแต่ 31 ตุลาคม 2024 ราคาน้ำมันขายปลีกในวันนี้ 23 มกราคม 2025 เป็นราคาถูกสุดใน 9 วันผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2025