นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/2568 มีแนวโน้มจะขยายตัวได้เป็นอย่างดี และอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแรงส่งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ของรัฐบาลที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี 67 อาทิ มาตรการโอนเงินตามโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2567/68 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท (โครงการไร่ละพัน) และยังมีมาตรการ Easy E-Receipt รวมถึงมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งน่าจะช่วยสนับสนุนให้ตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 1/2568 ออกมาดีพอสมควร
“เศรษฐกิจในไตรมาส 1/67 โตค่อนข้างต่ำ จึงเป็นตัวฉุดให้เศรษฐกิจในปี 2567 ขยายตัวได้เพียง 2% ปลายๆ เท่านั้น แต่ในปี 2568 ถ้าเราสามารถดึงให้เศรษฐกิจตั้งแต่ไตรมาส 1 ขยับขึ้นมาได้ ก็จะเป็นแรงส่งที่ช่วยให้เศรษฐกิจทั้งปีนี้ เติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 3% แน่นอน ซึ่งเราก็ยังเชื่อว่าจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างเศรษฐกิจทั้งในไตรมาส 1 และทั้งปีนี้ จะดีกว่าปีที่แล้วแน่นอน”
อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องความกังวลเกี่ยวกับทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังจากนายโดนัล ทรัมป์ รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ซึ่งเชื่อว่าทุกกระทรวง และทุกหน่วยงานได้มีการทำข้อสรุปและประเมินสถานการณ์กันไว้แล้ว เพราะเป็นเรื่องเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่อาจจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจไทย
ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังจะมีการประมวลข้อมูลภายในทั้งหมด เกี่ยวกับทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังจากนี้ว่าจะมีทิศทางอย่างไร โดยมองว่าจำเป็นต้องประเมินไว้ในหลายสถานการณ์ ส่วนรายละเอียดทั้งหมดนั้น คงยังเร็วเกินไปที่จะตอบ ขอหารือกันภายในให้เรียบร้อยก่อน