GWM (Thailand) พร้อมยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงาน มุ่งหน้าสร้างเครือข่ายพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จัดงาน GWM Partner Meeting 2025 นำทัพโดย เจมส์ หยาง รองประธาน GWM International เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) และนายวุฒิกร สุริยฉันทนานนท์ รองประธายฝ่ายการตลาด GWM (Thailand) พร้อมด้วยทีมผู้บริหารและพนักงานจาก GWM (Thailand) โดยมีเครือข่ายพาร์ทเนอร์กว่า 67 แห่ง จำนวน 129 ท่าน เข้าร่วมงานอย่างคับคั่งจากทั่วประเทศ โดยในงานได้เปิดให้สัมผัสอย่างใกล้ชิดกับนวัตกรรมล้ำหน้า 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เตรียมเปิดตัวในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้ ได้แก่ NEW GWM TANK 300 DIESEL และ ALL NEW GWM HAVAL H6 พร้อมกันนี้ ยังได้ประกาศแผนกลยุทธ์เพื่อกำหนดทิศทางในการดำเนินธุรกิจร่วมกันกับ 4 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสร้างการรับรู้แบรนด์และผลิตภัณฑ์ ความร่วมมือระหว่าง GWM x Partner และการสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า หรือ CEM (Customer Experience Management) นอกจากนี้ ยังประกาศแต่งตั้ง GWM Partner Council ชุดใหม่ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศและขยายโอกาสทางธุรกิจให้เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน โดยงาน GWM Partner Meeting 2025 ครั้งนี้ จัดขึ้น ณ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา
เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า “ขอขอบคุณพาร์ทเนอร์ทุกท่านที่ร่วมสร้าง GWM (Thailand) ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งเข้าสู่ปีที่ 5 แม้สถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศยังคงชะลอตัวและแข่งขันสูง แต่ GWM (Thailand) ยังคงมองเห็นโอกาสในการสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งร่วมกันผ่านความมุ่งมั่นและความร่วมมือของพาร์ทเนอร์ ทุกราย เพื่อส่งมอบนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ ๆ และบริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้าทุกคน และก้าวสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำหน้าครอบคลุมทุกประเภทพลังงานได้อย่างแท้จริง มุ่งเน้นตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย และยังคงเดินหน้าลงทุนและขยายธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างคุณค่าในระยะยาวให้กับลูกค้า ชุมชน และพาร์ทเนอร์ชาวไทย”
ในงาน GWM Partner Meeting 2025 ในครั้งนี้ มุ่งเน้นพัฒนาธุรกิจของ GWM ในประเทศไทยอย่างแข็งแกร่ง ผ่านการให้ความสำคัญกับเครือข่ายพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จของแบรนด์ในตลาดรถยนต์ไทย ล่าสุด GWM ได้ประกาศ 4 กลยุทธ์หลักที่ควบคู่ไปกับแนวคิด GWM Go With More และ “การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ” (Great Teamwork with a Service Mind) จะช่วยยกระดับการทำงานร่วมกันระหว่าง GWM และ พาร์ทเนอร์ สโตร์ ทุกแห่ง เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีกว่า เหนือกว่า และประทับใจยิ่งกว่าให้กับลูกค้าในทุกมิติ ตั้งแต่กระบวนการขายไปจนถึงการบริการหลังการขาย โดยมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าที่มากกว่า เพื่อเคียงข้างลูกค้าตลอดการใช้งานนวัตกรรมทุกรุ่นของ GWM นอกจากนี้ พาร์ทเนอร์ที่เข้าร่วมงานยังได้รับโอกาสพิเศษในการสัมผัสและทำความรู้จักกับรถยนต์รุ่นใหม่ที่เตรียมเปิดตัวภายในครึ่งปีแรกก่อนใคร พร้อมทั้งร่วมทดสอบสมรรถนะของ NEW GWM TANK 300 DIESEL ซึ่งได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้เข้าร่วมงาน ด้วยสมรรถนะที่โดดเด่นและดีไซน์อันแข็งแกร่ง ทำให้พาร์ทเนอร์เห็นถึงศักยภาพและโอกาสทางการขายที่สามารถขยายตลาดได้อย่างครอบคลุม รองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มที่หลากหลาย และช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ในตลาดเมืองไทยมากยิ่งขึ้น
4 กลยุทธ์หลัก กุญแจสำคัญที่นำพา GWM สู่ความสำเร็จ
ในปี 2025 นี้ GWM ได้กำหนด 4 กลยุทธ์สำคัญ ที่จะเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนองค์กรและธุรกิจไปข้างหน้า ไม่เพียงแต่เสริมสร้างศักยภาพของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับพาร์ทเนอร์และลูกค้า เพื่อรองรับการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อเป้าหมายเดียวคือ ส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ล้ำหน้ากว่า ดีกว่า มากกว่า ในทุกมิติ
กลยุทธ์ที่ 1 “พัฒนาผลิตภัณฑ์”: เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ยานยนต์ที่มีความเปลี่ยนแปลงสูง GWM ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยจากการรับฟังเสียงของผู้บริโภคและพาร์ทเนอร์ ในปีนี้ GWM จะมีการนำผลิตภัณฑ์ใหม่มากมายเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยในหลากหลายเครื่องยนต์ หลากหลายประเภท และหลากหลายเซกเมนต์ เพื่อขยายตลาดและเพิ่มโอกาสทางการขายให้กับพาร์ทเนอร์ และยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ล่าสุด GWM เตรียมปล่อย NEW GWM TANK 300 DIESEL รถเอสยูวีออฟโรดที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจนใหม่ ที่จะฉีกกฎเครื่องยนต์ดีเซลแบบเดิม ๆ พร้อมมอบความมั่นใจในคุณภาพด้วยการรับประกันเครื่องยนต์ดีเซลถึง 1,000,000 กิโลเมตร (8 ปี) ในขณะที่ ALL NEW GWM HAVAL H6 รถเอสยูวีของครอบครัวรุ่นใหม่ มีการพัฒนาครั้งใหญ่ในรอบ 4 ปี จากการรับฟังเสียงของผู้บริโภค ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก ภายใน หน้าจอ infotainment ที่ใหญ่ขึ้น UX & UI ใหม่ทั้งหมด ใช้ Coffee OS 3.0 ระบบแผนที่ของ Huawei กล้อง 540 องศา พวงมาลัยและคันเกียร์ การเซ็ตระบบช่วงล่างใหม่ (รุ่น HEV) และระบบเสียง ล้วนได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับประสบการณ์ให้ดีขึ้น
กลยุทธ์ที่ 2 “การสร้างการรับรู้แบรนด์”: GWM จะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ในการทำกิจกรรมทางการตลาดและสร้างการรับรู้แบรนด์ที่มีประสิทธิภาพ โดยเสริมสร้างกลยุทธ์การสื่อสารที่ตอบโจทย์ Customer Journey ทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ โดยทั้งหมดนี้จะอยู่ภายใต้ “ONE GWM” และ Go With More กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของ GWM ในระดับโลก ที่มุ่งมั่นส่งมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าและเหนือกว่าในทุก ๆ ด้านอย่างครอบคลุม รวมถึงการร่วมมือกันการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของ GWM ในประเทศไทย
กลยุทธ์ที่ 3 “ความร่วมมือระหว่าง GWM x Partner”: GWM มุ่งเน้นการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ทุกรายอย่างใกล้ชิด เพื่อขยายเครือข่ายและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเน้นกลยุทธ์การทำตลาดที่เข้มข้นและเจาะลึก นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้ง GWM Partner Council ซึ่งเป็นการสร้างพื้นที่ให้พาร์ทเนอร์ทุกรายทั่วประเทศได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางธุรกิจร่วมกัน โดยการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากพาร์ทเนอร์ ช่วยให้การตัดสินใจด้านกลยุทธ์และแผนงานต่าง ๆ เป็นไปอย่างรอบคอบและมีความหลากหลาย ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยในการเติบโตของ GWM แต่ยังช่วยส่งเสริมให้พาร์ทเนอร์มีการพัฒนาร่วมกันในทุก ๆ ด้าน ทั้งการขาย การบริการลูกค้า และการทำงานภายในองค์กร เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคง แข็งแกร่ง และยั่งยืน
กลยุทธ์ที่ 4 “การสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า หรือ CEM (Customer Experience Management)”: GWM ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า โดยการมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าและเหนือกว่าในทุกมิติ เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่ไม่เพียงแต่ตรงตามความต้องการ แต่ยังเกินความคาดหวังในทุกขั้นตอนของการมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านบริการหลังการขายที่มีคุณภาพสูงและการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว เน้นการดูแลลูกค้าหลังจากที่ซื้อผลิตภัณฑ์แล้ว โดยการให้บริการที่มีคุณภาพและครบวงจร ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจให้กับลูกค้าหลังจากการซื้อ เพื่อสร้างฐานลูกค้าประจำที่ไม่เพียงแต่ซื้อรถยนต์จาก GWM แต่ยังกลับมาใช้บริการในอนาคต ทั้งด้านการให้บริการที่มีคุณภาพ การพัฒนาทักษะช่างเทคนิค การบริหารจัดการอะไหล่ โดย GWM จะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้าทุกราย เพื่อสร้างความยั่งยืนในธุรกิจและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
การจัดงาน GWM Partner Meeting 2025 ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ GWM ในการพัฒนาธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง แต่ยังเป็นการตอกย้ำความสำคัญของเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนความสำเร็จของแบรนด์ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน