บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) ในฐานะผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ ชี้แจงผลกระทบต่อการดำเนินการต่างๆ และการปรับปรุงระบบควบคุมภายในเกี่ยวกับการจัดทำงบการเงิน จากกรณีที่สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษบริษัทและกรรมการอีก 2 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยมีประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์ฯขอให้ชี้แจง 4 ประเด็น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทได้รับทราบข้อมูลสำคัญ ภายในวันที่ 19 มิถุนายน 2568 นั้น
บริษัทขอชี้แจงข้อมูลตามประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถาม ดังนี้
1. สถานะและความคืบหน้าในการดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) ของ JKN บริษัทได้รับรายงานด้วยวาจาจากบริษัท สำนักงาน ดร.วิรัช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด ผู้สอบบัญชีอิสระที่ได้รับความเห็นชอบจาก สำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีเพื่อทำการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) ว่า ปัจจุบันเพิ่งดำเนินการสอบทานข้อมูลทางบัญชีแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างการสอบทานกระดาษทำการเพื่อจัดทารายงาน ซึ่งต้องปฏิบัติงานและแสดงความเห็นต่อรายการซื้อลิขสิทธิ์รายการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567 รวมถึงการจ่ายชำระค่าลิขสิทธิ์รายการที่มีการซื้อในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ตามที่บริษัทมีการบันทึกบัญชี
ซึ่งครอบคลุมตามประเด็นที่ผู้สอบบัญชี บริษัท สอบบัญชีธรรมนิติ จำกัด ได้ตั้งข้อสังเกต และแจ้งข้อมูลมายังคณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee) เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ ตามมาตรา 89/25 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม)
แต่เนื่องจาก สำนักงาน ก.ล.ต. มีข้อสังเกตเพิ่มขึ้นในประเด็นเจ้าหนี้ที่เกิดจากรายการซื้อลิขสิทธิ์ ทำให้บริษัทและสำนักงาน ดร.วิรัช จะต้องทบทวนขอบเขตการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้ครอบคลุมตามประเด็นที่ สำนักงาน ก.ล.ต. มีข้อสังเกตดังกล่าว ซึ่งจะมีผลต่อระยะเวลาการตรวจสอบและออกรายงาน โดยคาดว่าจะต้องใช้เวลาเกินกว่าไตรมาส 2/68 ที่เคยแจ้งไว้ หากมีความคืบหน้าจะเรียนแจ้งให้ทราบผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไป
2. ผลกระทบต่อการฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลาย จากกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า สำนักงาน ก.ล.ต.ได้ กล่าวโทษ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ และนางสาวพิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ ว่าร่วมกันสั่งการหรือกระทำการสร้างรายการเจ้าหนี้ปลอมและลูกหนี้ปลอม ซึ่งส่งผลให้งบการเงินปี 2566 ของ JKN แสดงยอดหนี้สินและสินทรัพย์ต่างจากความเป็นจริง แต่นำเจ้าหนี้การค้ามาบันทึกบัญชีในปี 2567 เพื่อลวงบุคคลใด ๆ ว่าในปี 2567 JKN มีเจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้น และนำเจ้าหนี้การค้าดังกล่าวไปใช้สิทธิออกเสียงเพื่อเลือกผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ
ของ JKN
บริษัทชี้แจงว่า การกล่าวโทษของสำนักงาน ก.ล.ต. ต่อ DSI เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการสอบสวนซึ่งจะต้องมีการพิจารณาพยานหลักฐานว่าบริษัท นายจักรพงษ์ นางสาวพิมพ์อุมา (ผู้ถูกกล่าวหา) ได้กระทำความผิดหรือไม่อย่างไร ซึ่งผู้ถูกกล่าวหามีสิทธินำพยานหลักฐานไปแสดงต่อพนักงานสอบสวนตามกระบวนการและขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ การฟื้นฟูกิจการจะยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จนกว่าศาลฯ จะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้ถูกกล่าวหามีความผิดตามที่
ได้มีการกล่าวโทษ
3. ผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ JKN บริษัทชี้แจงว่า เนื่องจากนายจักรพงษ์ และนางสาวพิมพ์อุมา เป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในธุรกิจ ซึ่งการที่บุคคลทั้งสองต้องพ้นจากตำแหน่งย่อมส่งผลกระทบไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมต่อบริษัท อย่างไรก็ตามเพื่อให้บริษัทมีผู้นำองค์กรที่สามารถบริหารงานได้อย่างต่อเนื่อง และรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ของบริษัท และลดผลกระทบจากการพ้นตำแหน่งของบุคคลทั้งสองดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ปัจจุบันบริษัทได้สรรหากรรมการเพื่อเข้าดารงตาแหน่งแทนบุคคลทั้งสองไว้แล้ว แต่เนื่องจากบริษัทอยู่ภายใต้คำสั่งฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลาง จึงจำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากศาลฯ ก่อน ซึ่งคาดว่าการเปลี่ยนแปลงกรรมการจะแล้วเสร็จภายใน 15 วันนับจากวันที่ศาลฯ เห็นชอบ
สำหรับแนวทางในการดำเนินธุรกิจของบริษัทในอนาคต บริษัทยังคงต้องรอภายหลังการเปลี่ยนแปลงกรรมการของบริษัทให้แล้วเสร็จเสียก่อน จึงจะทราบถึงแนวทางในการบริหารงานของคณะกรรมการชุดใหม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ในส่วนของการบริหารจัดการนั้น บริษัทอยู่ระหว่างสรรหาผู้รับผิดชอบแทนผู้บริหารที่พ้นจากตาแหน่ง คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ดี ปัจจุบันผู้รับผิดชอบแต่ละสายงานยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามขอบเขตอานาจหน้าที่ และการดำเนินธุรกิจยังคงมีการจัดการและบริหารงานเป็นไปตามปกติ
4. แนวทางการปรับปรุงระบบควบคุมภายในเกี่ยวกับกระบวนการจัดทางบการเงินและเอกสารที่เกี่ยวข้องในอนาคต เพื่อให้ JKN มีระบบการควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะสามารถจัดทำงบการเงินได้ถูกต้อง น่าเชื่อถือนั้น
บริษัทชี้แจงว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงธุรกิจหลักจากธุรกิจการจำหน่ายคอนเทนต์ เป็นธุรกิจการจำหน่ายสินค้า (Commerce) โดยปรับลดการดำเนินธุรกิจคอนเทนต์ซึ่งไม่สามารถสร้างรายได้เช่นในอดีต จึงนำคอนเทนต์ที่ถือครองอยู่มาใช้ประโยชน์โดยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง JKN18 และสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ เพื่อเป็นการสร้าง Eyeball ดึงดูดให้ผู้ชมเข้าชมในช่องและเห็นรายการขายสินค้าของบริษัทมากขึ้น ทำให้เกิดโอกาสในการขายเพิ่มขึ้น
บริษัทอยู่ระหว่างการปรับกระบวนการทำงานและเพิ่มการควบคุมภายในให้สอดคล้องกับลักษณะการดาเนินธุรกิจของบริษัทในปัจจุบัน โดยการเพิ่มเติมขั้นตอนการทางานในระบบงานที่เกี่ยวกับธุรกิจ Commerce ด้วยการนำระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) ซึ่งครอบคลุมระบบการจัดซื้อ การขาย การควบคุมสินค้าคงคลัง บัญชีและการเงิน มาเป็นเครื่องมือช่วยในการทำงาน มีกระบวนการอนุมัติในแต่ละขั้นตอนภายในระบบตามอำนาจอนุมัติของสายงาน ซึ่งจะต้องครบถ้วนสมบูรณ์ จึงจะสามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ การนำ ERP มาใช้จึงทำให้ข้อมูลมีความถูกต้อง ครบถ้วน มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะสามารถจัดทางบการเงินได้ถูกต้อง น่าเชื่อถือซึ่งคาดว่าการปรับปรุงเพิ่มเติมดังกล่าวจะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2568 นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างบุคลากรให้เหมาะสมและเพียงพอต่อกระบวนการทางานและเป็นไปตามหลักการควบคุมภายในที่ดี
บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) ในฐานะผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ ชี้แจงผลกระทบต่อการดำเนินการต่างๆ และการปรับปรุงระบบควบคุมภายในเกี่ยวกับการจัดทำงบการเงิน จากกรณีที่สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษบริษัทและกรรมการอีก 2 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยมีประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์ฯขอให้ชี้แจง 4 ประเด็น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทได้รับทราบข้อมูลสำคัญ ภายในวันที่ 19 มิถุนายน 2568 นั้น
บริษัทขอชี้แจงข้อมูลตามประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถาม ดังนี้
1. สถานะและความคืบหน้าในการดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) ของ JKN บริษัทได้รับรายงานด้วยวาจาจากบริษัท สำนักงาน ดร.วิรัช แอนด์ แอสโซซิเอทส์ จำกัด ผู้สอบบัญชีอิสระที่ได้รับความเห็นชอบจาก สำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีเพื่อทำการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit) ว่า ปัจจุบันเพิ่งดำเนินการสอบทานข้อมูลทางบัญชีแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างการสอบทานกระดาษทำการเพื่อจัดทารายงาน ซึ่งต้องปฏิบัติงานและแสดงความเห็นต่อรายการซื้อลิขสิทธิ์รายการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567 รวมถึงการจ่ายชำระค่าลิขสิทธิ์รายการที่มีการซื้อในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ตามที่บริษัทมีการบันทึกบัญชี
ซึ่งครอบคลุมตามประเด็นที่ผู้สอบบัญชี บริษัท สอบบัญชีธรรมนิติ จำกัด ได้ตั้งข้อสังเกต และแจ้งข้อมูลมายังคณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee) เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ ตามมาตรา 89/25 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม)
แต่เนื่องจาก สำนักงาน ก.ล.ต. มีข้อสังเกตเพิ่มขึ้นในประเด็นเจ้าหนี้ที่เกิดจากรายการซื้อลิขสิทธิ์ ทำให้บริษัทและสำนักงาน ดร.วิรัช จะต้องทบทวนขอบเขตการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้ครอบคลุมตามประเด็นที่ สำนักงาน ก.ล.ต. มีข้อสังเกตดังกล่าว ซึ่งจะมีผลต่อระยะเวลาการตรวจสอบและออกรายงาน โดยคาดว่าจะต้องใช้เวลาเกินกว่าไตรมาส 2/68 ที่เคยแจ้งไว้ หากมีความคืบหน้าจะเรียนแจ้งให้ทราบผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไป
2. ผลกระทบต่อการฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลาย จากกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า สำนักงาน ก.ล.ต.ได้ กล่าวโทษ นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ และนางสาวพิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ ว่าร่วมกันสั่งการหรือกระทำการสร้างรายการเจ้าหนี้ปลอมและลูกหนี้ปลอม ซึ่งส่งผลให้งบการเงินปี 2566 ของ JKN แสดงยอดหนี้สินและสินทรัพย์ต่างจากความเป็นจริง แต่นำเจ้าหนี้การค้ามาบันทึกบัญชีในปี 2567 เพื่อลวงบุคคลใด ๆ ว่าในปี 2567 JKN มีเจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้น และนำเจ้าหนี้การค้าดังกล่าวไปใช้สิทธิออกเสียงเพื่อเลือกผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ
ของ JKN
บริษัทชี้แจงว่า การกล่าวโทษของสำนักงาน ก.ล.ต. ต่อ DSI เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการสอบสวนซึ่งจะต้องมีการพิจารณาพยานหลักฐานว่าบริษัท นายจักรพงษ์ นางสาวพิมพ์อุมา (ผู้ถูกกล่าวหา) ได้กระทำความผิดหรือไม่อย่างไร ซึ่งผู้ถูกกล่าวหามีสิทธินำพยานหลักฐานไปแสดงต่อพนักงานสอบสวนตามกระบวนการและขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ การฟื้นฟูกิจการจะยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จนกว่าศาลฯ จะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้ถูกกล่าวหามีความผิดตามที่
ได้มีการกล่าวโทษ
3. ผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของ JKN บริษัทชี้แจงว่า เนื่องจากนายจักรพงษ์ และนางสาวพิมพ์อุมา เป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในธุรกิจ ซึ่งการที่บุคคลทั้งสองต้องพ้นจากตำแหน่งย่อมส่งผลกระทบไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมต่อบริษัท อย่างไรก็ตามเพื่อให้บริษัทมีผู้นำองค์กรที่สามารถบริหารงานได้อย่างต่อเนื่อง และรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ของบริษัท และลดผลกระทบจากการพ้นตำแหน่งของบุคคลทั้งสองดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ปัจจุบันบริษัทได้สรรหากรรมการเพื่อเข้าดารงตาแหน่งแทนบุคคลทั้งสองไว้แล้ว แต่เนื่องจากบริษัทอยู่ภายใต้คำสั่งฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลาง จึงจำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากศาลฯ ก่อน ซึ่งคาดว่าการเปลี่ยนแปลงกรรมการจะแล้วเสร็จภายใน 15 วันนับจากวันที่ศาลฯ เห็นชอบ
สำหรับแนวทางในการดำเนินธุรกิจของบริษัทในอนาคต บริษัทยังคงต้องรอภายหลังการเปลี่ยนแปลงกรรมการของบริษัทให้แล้วเสร็จเสียก่อน จึงจะทราบถึงแนวทางในการบริหารงานของคณะกรรมการชุดใหม่ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ในส่วนของการบริหารจัดการนั้น บริษัทอยู่ระหว่างสรรหาผู้รับผิดชอบแทนผู้บริหารที่พ้นจากตาแหน่ง คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง อย่างไรก็ดี ปัจจุบันผู้รับผิดชอบแต่ละสายงานยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามขอบเขตอานาจหน้าที่ และการดำเนินธุรกิจยังคงมีการจัดการและบริหารงานเป็นไปตามปกติ
4. แนวทางการปรับปรุงระบบควบคุมภายในเกี่ยวกับกระบวนการจัดทางบการเงินและเอกสารที่เกี่ยวข้องในอนาคต เพื่อให้ JKN มีระบบการควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะสามารถจัดทำงบการเงินได้ถูกต้อง น่าเชื่อถือนั้น
บริษัทชี้แจงว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงธุรกิจหลักจากธุรกิจการจำหน่ายคอนเทนต์ เป็นธุรกิจการจำหน่ายสินค้า (Commerce) โดยปรับลดการดำเนินธุรกิจคอนเทนต์ซึ่งไม่สามารถสร้างรายได้เช่นในอดีต จึงนำคอนเทนต์ที่ถือครองอยู่มาใช้ประโยชน์โดยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง JKN18 และสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ เพื่อเป็นการสร้าง Eyeball ดึงดูดให้ผู้ชมเข้าชมในช่องและเห็นรายการขายสินค้าของบริษัทมากขึ้น ทำให้เกิดโอกาสในการขายเพิ่มขึ้น
บริษัทอยู่ระหว่างการปรับกระบวนการทำงานและเพิ่มการควบคุมภายในให้สอดคล้องกับลักษณะการดาเนินธุรกิจของบริษัทในปัจจุบัน โดยการเพิ่มเติมขั้นตอนการทางานในระบบงานที่เกี่ยวกับธุรกิจ Commerce ด้วยการนำระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) ซึ่งครอบคลุมระบบการจัดซื้อ การขาย การควบคุมสินค้าคงคลัง บัญชีและการเงิน มาเป็นเครื่องมือช่วยในการทำงาน มีกระบวนการอนุมัติในแต่ละขั้นตอนภายในระบบตามอำนาจอนุมัติของสายงาน ซึ่งจะต้องครบถ้วนสมบูรณ์ จึงจะสามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ การนำ ERP มาใช้จึงทำให้ข้อมูลมีความถูกต้อง ครบถ้วน มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะสามารถจัดทางบการเงินได้ถูกต้อง น่าเชื่อถือซึ่งคาดว่าการปรับปรุงเพิ่มเติมดังกล่าวจะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2568 นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างบุคลากรให้เหมาะสมและเพียงพอต่อกระบวนการทางานและเป็นไปตามหลักการควบคุมภายในที่ดี