ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่าวันนี้ 6 พฤศจิกายน 2024 เมื่อเวลา 9.30 น. ซึ่งตรงกับเวลา 21.30 น. ของไทย พบว่า ดัชนีหุ้นดาวโจนส์เปิดระดับ 43,528 จุด +1,306 จุด หรือ +3.09% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ที่ระดับ 5,901 จุด +118 จุด หรือ +2.06% และดัชนีหุ้นนาสแดคเปิดที่ 18,818 จุด +379 จุด หรือ +2.06% ไม่เพียงส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์เปิดตลาดซื้อขายพุ่งสูงขึ้นกว่า 3% ขึ้นไป ทำสถิติดัชนีหุ้นพุ่งกระฉูดมากที่สุดใน 1 วัน ที่คึกคักที่สุดในรอบ 1 ปี 4 เดือน หรือตั้งแต่มิถุนายน 2023 เป็นต้นมา แต่ยังทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 05.30 น. (ตามเวลาในสหรัฐ) หรือตรงกับ 17.30 น. ดัชนีหุ้นล่วงหน้า หรือ Future ทั้ง 3 ดัชนีหุ้นสำคัญพุ่งทะยานสูงขึ้น ประกอบด้วย ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ที่ระดับ 43,598 จุด +1,217 จุด หรือ +2.85% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ที่ระดับ 5,945 จุด +133 จุด หรือ +2.27% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 20,696 จุด +354 จุด หรือ +1.76%
สาเหตุจากนักลงทุนมั่นใจความความชัดเจนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีสัดส่วนคะแนนคณะผู้เลือกตั้งสูงถึง 248 คะแนน นำนางกมลา แฮร์ริส ที่ได้ 214 คะแนน นอกจากนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับสัดส่วนคะแนนเสียงเลือกตั้งชนะนางแฮร์ริสใน 2 รัฐสวิงสำคัญ ได้แก่ รัฐเพนซิลวาเนีย และรัฐจอร์เจีย ที่สำคัญในจำนวน 5 รัฐสวิงที่เหลือยังพบว่ามีแนวโน้มสูงมากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะนางแฮร์ริสทั้งหมดอีกด้วย
ย้อนกลับไปในคืนผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 42,221 จุด +407 จุด หรือ +1.02% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,782 จุด +70 จุด หรือ +1.23% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 18,439 จุด +259 จุด หรือ +1.43% ส่งผลให้ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดขึ้นเหนือระดับ 42,000 จุดครั้งใหม่ ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดลดลง -0.2%, -1.4% และ -1.5% ตามลำดับ
สาเหตุจากนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ซึ่งจะมีขึ้นในคืนวันนี้ ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางตัวชี้วัดโอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐอเมริกา พบว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐครั้งต่อไปวันที่ 7 พฤศจิกายนนี้ มีโอกาสที่ 100% ที่ดอกเบี้ยจะปรับลง 0.25%