นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) เปิดเผยว่า ราคาทอง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบพยายามทรงตัว หลังจากย่อตัวมาเกือบ 2 สัปดาห์ ราว 250 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ นับจากรับรู้ผลการเลือกตังประธานาธิบดีสหรัฐ
ทั้งนี้ราคาทองคำแกว่งพักตัวในระยะสั้น เหตุนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากก่อนนี้ปรับตัวขึ้นทำ All Time High ต่อเนื่อง แตะ 2,790 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่ระยะยาว เทรนด์ยังเป็นขาขึ้น รับทิศทางดอกเบี้ยขาลงเฟดอีก 2 ปี พร้อมให้เป้าหมายปีหน้า 2,850-3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
อย่างไรก็ดี ราคาทองยังมี 3 ปัจจัย ที่หนุนทองคำแข็งแกร่งได้แก่ 1. ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงสะสมทองคำเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ 2. ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่กลับมาปะทุและน่ากังวลมากขึ้นในฝั่ง รัสเซีย-ยูเครน 3. ความเปราะบางทางเศรษฐกิจสหรัฐในอนาคตภายใต้คณะบริหารชุดใหม่ ล่าสุดจับมือ Trading View เพิ่มทางเลือกนักลงทุน มอบสิทธิพิเศษจำนวนมากสำหรับการเปิดบัญชี YLG Futures บน Trading View เพิ่มโอกาสเข้าถึงข้อมูลการลงทุนอย่างรอบด้าน
สำหรับ การเคลื่อนไหวของทองคำในช่วงนี้เป็นการขายทำกำไรหลังจากช่วงก่อนหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องขึ้นไปและ 2,790 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งถือว่าปรับตัวขึ้นไปมากกว่าที่ตลาดคาด จึงทำให้มีแรงเทขายออกมารอบใหญ่ แต่ในส่วนของภาพระยะยาวนั้นยังเป็นขาขึ้น เพราะนอกจากความผันผวนในโลกของการลงทุนที่เกิดขึ้นจากปัจจัยที่ โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถชนะการเลือกตั้งแล้ว ก็ยังมีปัจจัยสนับสนุนอยู่อีกหลายด้าน เข่น การเข้าซื้อของธนาคารกลางทั่วโลกที่ยังคงเดินหน้าสะสมทองคำต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2565-2566 ที่ Central Bank ได้เข้าซื้อทองคำมากถึง 1,082 ตัน และ 1,037 ตัน