ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2025 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 44,428 จุด -748 จุด หรือ -1.69% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 6,013 จุด -104 จุด หรือ -1.71% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 19,524 จุด -438 จุด หรือ -2.20% ส่งผลดัชนีหุ้นดาวโจนส์ และนาสแดค ปิดดำดิ่งรุนแรงรวม 2 วันติดกันถึง -1,198 และ -531 จุด ตามลำดับ ที่สำคัญ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิกดำดิ่งลงเหวลึกถึง -748 จุด นับเป็นวันที่สุดเลวร้ายในรอบปี 2025 นี้ นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นหุ้นนาสแดคปิดหลุดระดับ 20,000 จุดต่อเนื่อง และดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดหลุดจากระดับสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ที่ปิดขึ้น 4 วันติดกัน ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด -2.5%, -1.7% และ -2.5% ตามลำดับ สิ้นสุดมกราคม ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิด +4.7%, +2.7% และ +1.6% ตามลำดับ
สาเหตุจากนักลงทุนกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่มีสัญญาณเศรษฐกิจหลายอย่างชะลอตัวมากขึ้น เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ พบว่ามีค่าลดลงแตะที่ระดับ 64.7 จุด ซึ่งลดลงมากกว่า 10 จุดเมื่อเทียบกับเดือนมกราคมที่ผ่านมา และยังลดลงมากกว่าที่คาดการณ์กันไว้สาเหตุจากผู้บริโภคชาวอเมริกันกลับมากังวลกับตัวเลขเงินเฟ้อที่จะเริ่มสูงขึ้นครั้งใหม่ ซึ่งเป็นผลจากนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้ผลสำรวจเกี่ยวกับมุมมองภาวะเงินเฟ้อสหรัฐอเมริกา พบว่าตัวเลขดังกล่าวในช่วง 5 ปี ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.5% ทำสถิติมุมมองเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีหรือนับตั้งแต่เมษายนปี 1995 เป็นต้นมา และในช่วง 1 ปี ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4.3% ทำสถิติมุมมองเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 1 ปี 3 เดือน หรือนับตั้งแต่พฤศจิกายนปี 2023 เป็นต้นมา
ด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะยอดขายบ้านมือสอง พบว่า ในเดือนมกราคมมีจำนวนลดลงมากกว่าที่คาดคาดการณ์ไว้ มาอยู่ที่ 4.08 ล้านยูนิต รวมถึงดัชนีฝ่ายจัดซื้อในธุรกิจภาคผลิตอุตสาหกรรมของสหรัฐอเมริกาในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ปรากฏว่า ลดลงแตะระดับ 51.6 จุด ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ สอดรับกับดัชนีฝ่ายจัดซื้อในธุรกิจภาคบริการของสหรัฐอเมริกา ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ พบว่าชะลอลงอย่างนึกไม่ถึง ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปี ด้านราคาหุ้นของยักษ์ใหญ่ค้าปลีกระดับโลกอย่างวอล-มาร์ท ร่วงอีก 2.5% เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน วอล-มาร์ท ยอมรับว่าตัวเลขคาดการณ์เติบโตในงบประมาณปัจจุบันจะอยู่ที่ 3-4% ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ แนวโน้มรายได้คาดการณ์ของวอล-มาร์ทในปี 2026 ยังลดต่ำลงจากการประเมินของบรรดานักวิเคราะห์ด้วย ส่งผลราคาหุ้นวอล-มาร์ทดำดิ่งมากถึง -6.5% ในคืนผ่านมา