นายไซม่อน ลี ประธานกรรมการ บริษัท แองเจิล เรียลเอสเตท คอนซัลแทนซี่ จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาดและขายโควตาต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดต่างชาติที่ซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทย ยังมีเข้ามาต่อเนื่อง แต่ไม่เท่ากับช่วงก่อนมีโควิด โดยเฉพาะชาวจีนที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด 70% ล่าสุดเกิดเหตุกรณีดาราจีนที่หายตัวไป ทำให้การซื้อขายชะลอไปบ้าง เนื่องจากชาวจีนเริ่มมีความไม่มั่นใจ อย่างไรก็ตามชาวจีนยังเป็นลูกค้าหลัก รองลงมาเมียนมา ไต้หวัน โดยกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นทำเลที่ต่างชาติซื้อมากสุด ทั้งเป็นบ้านหลังที่สองและลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งได้ผลตอบแทน 4-6% ต่อปี ขึ้นอยู่กับพื้นที่ เช่น ภูเก็ตปล่อยเช่า 18,000-20,000 บาทต่อเดือน ได้ผลตอบแทน 6% ต่อปี ส่วนกรุงเทพฯปล่อยเช่าตั้งแต่ 5,000-50,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับทำเล ถ้าใจกลางเมืองบางทำเลมีถึง 100,000 บาทต่อเดือน ได้ผลตอบแทน 4-5%
โดยในระยัหลังชาวจีนที่ซื้อคอนโดในไทย เป็นเศรษฐีและซื้อราคามากกว่า 10 ล้านบาท จากเดิมเป็นกลุ่มกลาง-ล่าง ซื้อต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนเมียนมาซื้อราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดยจีน ไต้หวัน เมียนมาซื้อกรุงเทพและเชียงใหม่เป็นหลัก ส่วนภูเก็ตเป็นยุโรป รัสเซีย ราคาตั้งแต่ 7-15 ล้านบาท ขณะที่คนไทยนิยมซื้อคอนโดภูเก็ตราคา 1-3 ล้านบาท เพื่อลงทุนปล่อยเช่า รองรับกำลังซื้อชาวต่างชาติ
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ตลาดต่างชาติเป็นดีมานด์ถาวรของคอนโดไทย ยังมีแนวโน้มที่ดี โดยปี 2567 อนันดามียอดโอนต่างชาติที่ 40% ของยอดโอนรวม 12,000 ล้านบาท ลูกค้าหลักเป็นจีน เมียนมา ไต้หวัน การที่ต่างชาติยังให้ความสนใจ เพราะประเทศไทยน่าอยู่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวโลก มีระบบสาธารณสุขและระบบการศึกษาโรงเรียนนานาชาติที่ดี ซึ่งความต้องการของต่างชาติในตลาดอสังหาฯไทยอยู่ที่ 20-25% ของมูลค่าตลาดรวมทั่วประเทศ ทั้งถือครองกรรมสิทธิ์และสิทธิเช่าระยะยาว