นายศรชัย สุเนต์ตา รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Office and Product กลุ่มธุรกิจ Wealth ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า SCB CIO พร้อมสนับสนุนมาตรการส่งเสริมการออมการลงทุน ภายหลังจากที่ 3 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้สรุปแนวทางและพร้อมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 2 สัปดาห์นี้ ในการปรับเงื่อนไขกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund : ThaiESG) โดย SCB CIO มองว่า การขยายวงเงินลงทุนจากไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน ที่ซื้อได้ไม่เกิน 100,000 บาท เพิ่มขึ้นเป็น ไม่เกิน 300,000 บาท และลดระยะเวลาการถือครองจาก 8 ปี เป็น 5 ปี นับจากวันที่ลงทุน จะช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในตลาดหุ้นไทยได้มากขึ้น จากกลุ่มผู้ลงทุนที่ต้องการรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และลงทุนเพื่อการออมระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ กลุ่มคนที่มีรายได้ประจำ รวมถึงผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ต้องการสร้างวินัยในการออม เพื่อเป้าหมายในอนาคต โดยเลือกลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้
นอกจากนี้ การขยายนโยบายการลงทุนให้ครอบคลุมด้านธรรมาภิบาล ส่งเสริมความโปร่งใส จากเดิมเน้นด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้ครอบคลุมจำนวนบริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai เพิ่มขึ้น จาก 128 บริษัท เป็น 200 บริษัทนั้น SCB CIO มองว่า จะทำให้การลงทุนในหุ้นไทยผ่าน ThaiESG มีความครอบคลุมครบทุกมิติของ ESG และมีความหลากหลายในการเลือกลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้มากขึ้น และสร้างความเชื่อมั่นที่ดีให้กับนักลงทุนเพราะเงื่อนไขการลงทุนของบริษัทต่างๆ จะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่ก.ล.ต. กำหนด
ทั้งนี้ SCB CIO แนะนำให้ผู้ลงทุน พิจารณาลงทุนในตลาดหุ้นไทยบนพอร์ตลงทุนหลัก (Core port) ที่เป็นพอร์ตการลงทุนระยะยาว โดยเรามองว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยสนับสนุนระยะยาว 5 ประเด็นหลักที่หนุนดัชนีหุ้นไทย ได้แก่ 1) การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐในปี 2567 ที่เร่งตัวขึ้นประมาณ 39% ในช่วงต้นเดือน มิ.ย. 2567 และยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป 2) Valuation ของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในระดับที่ไม่แพง ใกล้เคียงกับช่วงโควิด-19 3) ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในปี 2567 ที่คาดว่าจะขยายตัวประมาณ 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 4) ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง จะช่วยสนับสนุนเงินทุนไหลกลับเข้าไทยมากขึ้น และ 5) การประกาศเริ่มใช้มาตรการ Uptick Rule หรือ ให้ Short Sales หุ้นได้เฉพาะราคาที่สูงกว่าราคาตลาด ล่าสุด (uptick) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดความผันผวนของตลาดลงได้ จากการที่ทำธุรกรรม Short Sales ได้ยากขึ้นในช่วงตลาดขาลง