SCB EIC คาด ธุรกิจคลังสินค้า ของไทยปี 68 โตต่อ 9.3% รับทุนต่างชาติทะลักเข้าไทย อีคอมเมิร์ซหนุน

นางสาวกีรติญา ครองแก้ว นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ประเมิน ธุรกิจคลังสินค้า ของไทยในปี 2025 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยปริมาณพื้นที่คลังสินค้าที่มีสัญญาเช่าคาดว่าจะขยายตัวราว 9.3%YOY อยู่ที่ 4.76 ล้านตารางเมตร จากความต้องการใช้งานพื้นที่คลังสินค้าที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับภาคการผลิตที่กระจายฐานการผลิตมายังไทยของนักลงทุนต่างชาติในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเป็นหลัก อีกทั้ง ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้งานพื้นที่คลังสินค้าเพื่อรองรับการนำเข้าและส่งออกที่เติบโตได้ดี และความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยที่ฟื้นตัวและตลาด E-commerce ที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่อุปทานพื้นที่คลังสินค้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นราว 7.5%YOY จากการลงทุนขยายพื้นที่คลังสินค้าอย่างต่อเนื่องของผู้ให้บริการคลังสินค้าทำให้อัตราการปล่อยเช่าพื้นที่คลังสินค้าต่อพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าทั้งหมดจะอยู่ที่ 88.0% เพิ่มขึ้นจาก 86.6% ในปี 2024

อย่างไรก็ดี แนวโน้มความต้องการพื้นที่คลังสินค้าที่มีทิศทางเติบโตต่อเนื่องในระยะข้างหน้า จะส่งผลให้การแข่งขันในธุรกิจคลังสินค้าเข้มข้นมากยิ่งขึ้น จากการขยายพื้นที่คลังสินค้าของผู้ให้บริการรายเดิม และการเข้าสู่ตลาดของผู้เล่นรายใหม่ ดังนั้น การนำเสนอบริการให้สอดคล้องตามความต้องการของตลาดด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาปรับใช้ เช่น ระบบจัดการสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ หุ่นยนต์เคลื่อนย้ายสินค้า รวมถึงเทคโนโลยี AI ที่ช่วยวิเคราะห์การวางแผนจัดเก็บสินค้า ควบคู่ไปกับการรักษามาตรฐานบริการคลังสินค้าในระดับสากลจะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและทำให้ผู้ให้บริการคลังสินค้าสามารถดึงดูดผู้เช่ารายใหม่ได้มากขึ้น ขณะที่มาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ยังเป็นประเด็นสำคัญที่ธุรกิจคลังสินค้าต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีโอกาสส่งผลต่อแนวโน้มการกระจายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องถึงความต้องการพื้นที่คลังสินค้าในระยะข้างหน้า

นอกจากนี้ การให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่สำคัญของธุรกิจคลังสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนเพิ่มสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน การบริหารจัดการขยะอย่างเป็นระบบ รวมถึงการออกแบบและก่อสร้างอาคารคลังสินค้าแห่งใหม่โดยคำนึงถึงความยั่งยืน เช่น การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การออกแบบอาคารประหยัดพลังงาน และการนำเทคโนโลยีประหยัดพลังงานมาใช้ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยเสริมความได้เปรียบในการแข่งขัน และเพิ่มโอกาสในการเติบโตได้ในระยะข้างหน้าเนื่องจากผู้เช่าคลังสินค้าเริ่มมีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles