SCB EIC ชี้เศรษฐกิจไทยโตต่ำ 2% ถึง 2 ปี ครึ่งปีหลังนี้อาจโตแผ่วแค่ 1% เข้าภาวะถดถอยทางเทคนิค เงินเฟ้อฟื้นตัวช่วงปลายปี

ศูนย์วิจัย SCB EIC เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยจะโตต่ำไม่ถึง 2% ยาวไปปีหน้าจากการค้าโลกที่ชะลอและแผลเป็นเศรษฐกิจที่เรื้อรัง จึงยังคงมุมมองประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตต่ำที่ 1.5% และต่อเนื่องไปในปี 2569 ที่ 1.4% จากสงครามการค้า แผลเป็นเศรษฐกิจในภาคครัวเรือนและ SMEs ที่มีอยู่เดิม และข้อจำกัดด้านนโยบายการคลัง โดยเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีหลังนี้จะโตเฉลี่ยต่ำกว่า 1% และมีโอกาสเข้าสู่ Technical recession จากการส่งออกและการลงทุนที่จะแผ่วลง ขณะที่แรงส่งจากภาคการท่องเที่ยวจะน้อยกว่าคาด นักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ปรับลดลงเหลือ 34.2 ล้านคนกลับมาหดตัวจากปีก่อน ตามเทรนด์นักท่องเที่ยวจีนที่หดตัวและนักท่องเที่ยวระมัดระวังการใช้จ่ายจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง จากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า กำลังซื้อทั้งในและต่างประเทศที่อ่อนลง และความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ลดลง ส่งผลให้ภาคธุรกิจเลือกที่จะชะลอการลงทุน แม้ตัวเลขการอนุมัติการสนับสนุนการลงทุนของ BOI ยังเพิ่มขึ้นก็ตาม

แรงส่งสำคัญเศรษฐกิจไทยจะแผ่วลงเกือบทุกมิติ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่จะชะลอลงมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ภาคครัวเรือนยังอยู่ในช่วงการปรับลดภาระหนี้ที่สูงขึ้นมากในช่วงก่อนหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ครัวเรือนระมัดระวังในการใช้จ่าย นอกจากนั้น การบริโภคยังจะได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากความเปราะบางด้านการจ้างงานและรายได้ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงมาก และภาวะการเงินที่ยังตึงตัว

แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐวงเงิน 157,000 ล้านบาท แทนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แม้จะช่วยเศรษฐกิจได้ตรงจุดมากขึ้น แต่ผลบวกสู่เศรษฐกิจจะเกิดขึ้นช้ากว่าและยังไม่เพียงพอ แรงส่งเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายงบประมาณในปี 2569 จะแผ่วลง ขณะที่หนี้สาธารณะมีแนวโน้มติดเพดาน 70% ของ GDP ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดของการเพิ่มงบกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าหากไม่มีการปฏิรูปด้านการคลังควบคู่ไปด้วย

สำหรับเงินเฟ้อทั่วไปยังคงติดลบ สะท้อนราคาพลังงานที่ปรับลดลงต่อเนื่อง และกำลังซื้อในประเทศที่ยังซบเซา โดยประเมินว่าเงินเฟ้อในไตรมาส 2 อาจยังติดลบอยู่ ก่อนจะทยอยปรับสูงขึ้นในช่วงสิ้นปี อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อมีแนวโน้มต่ำกว่ากรอบเป้าหมายต่อเนื่องในปี 2569 จากปัจจัยอุปสงค์ที่ฟื้นตัวช้า ราคาพลังงาน รวมถึงสินค้าเกษตรขยายตัวต่ำ ทั้งนี้ความเสี่ยงจากสงครามในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม

SCB EIC ประเมิน กนง. มีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้เหลือ 1.25% เพื่อช่วยให้ภาวะการเงินผ่อนคลายมากขึ้นในภาวะที่เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มโตต่ำกว่าศักยภาพค่อนข้างมาก เงินเฟ้อหลุดขอบล่างของกรอบนโยบายการเงิน และคุณภาพสินเชื่อยังปรับด้อยลงต่อเนื่อง ทั้งนี้ภาวะการเงินในช่วงที่ผ่านมามีแนวโน้มตึงตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริงที่ยังอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต สินเชื่อหดตัวต่อเนื่อง และค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับคู่ค้าสำคัญปรับแข็งขึ้นมาอยู่ใกล้ระดับปี 1997

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles