SVOLT ยักษ์ผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้ารถอีวีจากจีน ประกาศปิดธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าในยุโรปและเยอรมนี ปลดพนักงานกว่า 2,000 คน ตลาดรถอีวีในยุโรปซบเซา

SVOLT ยักษ์ผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้ารถอีวีจากจีน ประกาศปิดธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าในยุโรปและเยอรมนี ปลดพนักงานกว่า 2,000 คน ตลาดรถอีวีในยุโรปซบเซา

เอสโวลท์ เอนเนอยี่ เทคโนโลยี (SVOLT Energy Technology) เป็นบริษัทสัญชาติจีนที่ผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวี โดยแยกตัวออกจากบริษัทแม่เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) ผู้ผลิตรถอีวีชื่อดังจากจีน เปิดเผยว่า เตรียมปิดกิจการเกี่ยวกับธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าในรถอีวี ซึ่งอยู่ในทวีปยุโรป รวมถึงยกเลิกธุรกิจของบริษัทในเครือที่อยู่ในประเทศเยอรมนีภายในเดือนมกราคมปี 2025 นี้ ที่สำคัญส่งผลให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนพนักงานที่ต้องตกงานในครั้งนี้ แต่ในปัจจุบัน เอสโวลท์ เอนเนอยี่ เทคโนโลยี จ้างพนักงานมากกว่า 2,000 คนขึ้นไปในยุโรป

ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นปีผ่านมา บริษัทดังกล่าวได้ยกเลิกแผนการลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าสำหรับรถอีวีในประเทศเยอรมนี ในขณะที่การก่อสร้างโรงงานจำนวน 2 แห่งที่เหลือนั้น พบว่า ต้องประสบกับอุปสรรคและความล่าช้าเป็นอย่างมาก หรืออาจจะต้องดำเนินการฟ้องร้องเกี่ยวกับกฎหมายการลงทุน

สาเหตุจากภาวะตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรืออีวีในภูมิภาคยุโรปโดยเฉพาะในประเทศขนาดใหญ่ใหญ่ เช่น เยอรมนีชะลอตัวเป็นอย่างมาก ยอดขายรถอีวีในตลาดยุโรปอยู่ในช่วงภาวะตกต่ำต่อเนื่อง การกีดกันทางการค้าโดยเฉพาะกลุ่มสหภาพยุโรปได้มีการประกาศใช้มาตรการทางภาษีปรับเพิ่มขึ้นกว่า 10% จากอัตราการจัดเก็บในปัจจุบันกับรถอีวีที่ผลิตจากประเทศจีน

สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งสหภาพยุโรป หรือ EAMA เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในทวีปยุโรปประจำเดือนสิงหาคมผ่านไปนั้นมีจำนวนลดลงมากถึง -18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา โดยเฉพาะยอดขายในตลาดรถยนต์ประเทศเยอรมนีตกต่ำรุนแรงมากถึง -28% ในเดือนดังกล่าว ที่สำคัญในส่วนของตลาดรถยนต์อีวีในสหภาพยุโรปนั้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบว่ายอดขายรถอีวีดำดิ่งมากถึง -44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา บีวายดีซึ่งเป็นแบรนด์รถอีวีชื่อดังระดับโลกจากจีนมียอดขายในเดือนสิงหาคมที่ตลาดเยอรมนีทำได้เพียงแค่ 218 คัน คิดเป็น 0.1% ของจำนวนรถอีวีในภาพรวมทั้งหมดที่อยู่ในตลาดเยอรมนี

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีชื่อดังจากประเทศจีน เปิดเผยว่า บริษัทเกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) ซึ่งดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายรถอีวีในประเทศเยอรมนี และเป็นสำนักงานใหญ่ที่ดูแลในทวีปยุโรป เตรียมปิดสำนักงานใหญ่ดังกล่าว

ในวันที่ 1 สิงหาคม 2024 รวมถึงยุติแผนการขยายตลาดรถอีวีในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรีย และหันไปปรับแผนการทำตลาดนำเข้ารถอีวีของกลุ่มเกรท วอลล์ มอเตอร์ จากประเทศจีนมาจำหน่ายเฉพาะในตลาดประเทศสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ และเยอรมนี พร้อมกันนี้ เตรียมปลดพนักงานทุกคนตั้งแต่ระดับบริหารสูงสุดจนถึงพนักงานทั่วไปรวมทั้งหมด 100 คนในประเทศเยอรมนี

สาเหตุสำคัญในการปิดสำนักงานใหญ่ และถอนกิจการในครั้งนี้ เนื่องจากยอดขายรถอีวีในตลาดเยอรมนี และอื่นๆในยุโรปล้วนตกต่ำย่ำแย่อย่างมาก ปัจจัยลบยังมาจากรัฐบาลเยอรมนีประกาศยกเลิกมาตรการอุดหนุนราคารถอีวีในช่วงปลายปี 2023 ผ่านมา หลังจากใช้มาตรการดังกล่าวมาเป็นเวลาหลายปีเพื่อหวังกระตุ้นสร้างตลาดรถอีวีในเยอร แต่กลับต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจเยอรมนีที่ซบเซาต่อเนื่องจนส่งผลกระคต่อรายได้ของรัฐบาลในช่วง 2-3 ปีผ่านมา

กรมการขนส่งยานยนต์แห่งชาติ ประเทศเยอรมนี หรือเอฟเอ็มทีเอ (FMTA) เปิดเผยว่า ค่ารถอีวีเกรท วอลล์ มอเตอร์ ทำยอดขายในเดือนเมษายนอยู่ที่ 247 คัน ซึ่งแตกต่างจากฮุนไดที่มียอดขายสูงถึง 9,106 คัน และโตโยต้าจำนวน 7,504 คัน สอดคล้องกับค่ายรถอีวีที่มีขนาดใหญ่อันดับ 1 ของโลกจากจีน คือ บีวายดี พบว่า ในเดือนเมษายนผ่านมา บีวายดีมียอดขายรถอีวีในตลาดเยอรมนีเพียง 183 คัน ซึ่งรั้งมาเป็นอันดับ 2 ต่อจากเกรท วอลล์ มอเตอร์ ก่อนหน้านี้ บีวายดีส่งรถอีวีมาเป็นจำนวน 3,000 คันจากโรงงานในประเทศจีนมายังท่าเรือในเมืองเบรเมอร์เฮเวน (Bremerhaven) อยู่ทางภาคเหนือของเยอรมนี

ค่ายรถเกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้กำหนดแผนการทำตลาดรถอีวีในประเทศเยอรมนีด้วยสองยี่ห้อได้แก่ ออร่า(ORA) และเวย์(Wey) ในยี่ห้อออร่านั้น ได้นำรุ่นออร่า 03 เข้ามาทำตลาดเป็นหลัก ซึ่งเป็นรถอีวีขนาดเล็กมีราคาขายที่คันละ 40,000 ยูโร หรือ 43,300 ดอลลาร์สหรัฐหรือตกครั้งละกว่า 1.6 ล้านบาท ย้อนกลับไปในช่วงต้นปีนี้รถรุ่นดังกล่าวจากการส่งเสริมการขายโดยลดราคาเหลือเพียงคันละ 27,000 ยูโร หรือกว่า 1.07 ล้านบาท

สำหรับนโยบาย และแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทเกรท วอลล์ มอเตอร์ ในตลาดต่างประเทศนั้น ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า ตั้งเป้าหมายที่จะขายรถอีวีให้ได้ถึง 1,000,000 คันในตลาดต่างประเทศภายในปี 2025 แต่ต้องเลื่อนระยะเวลาดังกล่าวออกไปอีก 5 ปีเป็นภายในปี 2030 รวมถึงมีแผนที่จะลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตรถอีวีในทวีปยุโรปด้วย

ความเคลื่อนไหวของบริษัทเอสวีโอแอลที หรือ SVOLT ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่บริษัทคอนเทมโพรารี แอมเพอเรกซ์ เทคโนโลยี หรือซีเอทีแอล (CATL) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าโดยเทคโนโลยีชั้นนำและมีชื่อดังแห่งหนึ่งของโลกจากประเทศจีน ได้ประกาศยกเลิกแผนการลงทุนก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าสำหรับรถอีวีที่เมืองอาร์นสตัดท์ (Arnstadt) ในประเทศเยอรมนี ซึ่งจะถือเป็นโรงงานผลิตเซลล์แบตเตอรี่ไฟฟ้าแห่งแรกของบริษัทซีเอทีแอลที่อยู่นอกประเทศจีน

ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์ในประเทศเยอรมนีนั้น รถยนต์ประเภทเครื่องสันดาป หรือรถน้ำมัน ยังคงเป็นที่ยอมนิยมมากที่สุด โดยยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่มีสัดส่วนมากถึง 37.3% ในขณะที่ ยอดรถอีวีมีสัดส่วนเพียง 12.2% นอกจากนี้ ยอดจดทะเบียนรถอีวีใหม่ในเดือนเมษายนยังซบเซาหดตัวถึง 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมาอีกด้วย

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles